สุดฉาว จ่อเรียก 5 'สรรพสามิต' รับทราบข้อหา ปมรีดเงิน แม่ค้าร้านชำ

ภายหลังนางสุณาภรณ์ บุญเกิด อายุ 75 ปี หรือป้าพร เจ้าของร้านขายของชำ ในซอยพหลโยธิน 52 ย่านสายไหม ร้อง สน.บางเขนว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ยัดบุหรี่ปลอม พาขึ้นรถตู้ ข่มขู่รีดเงิน 5,500 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ก่อนที่ต่อมา ทางกรมสรรพสามิต จะมีคำสั่งให้พักงาน เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 ราย พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผู้กำกับการ 1 บก.ปปป. นำกำลังลงพื้นที่ ประสานข้อมูลร่วมกับทาง พนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่า เป็นการกระทำการโดยมิชอบด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ ตำรวจได้เข้าพบ นางสุณาภรณ์ ผู้เสียหาย เพื่อบันทึกถ้อยคำ รวมถึงตรวจสอบภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิด ภายในร้านขายของชำ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 16.50 น. มีชายไม่ทราบชื่อ แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จำนวน 5 คน เข้ามาตรวจค้นที่ร้านค้าของผู้เสียหาย หลังจากนั้น ได้มีการนำบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งจากร้านผู้เสียหายไปที่รถตู้ แล้วนำกลับมาบอกกับผู้เสียหายว่า เป็นบุหรี่ปลอม

จากนั้น กลุ่มชายดังกล่าว จึงได้ให้ผู้เสียหายเข้าไปในรถ เพื่อคุยกับชายแต่งเครื่องแบบรายหนึ่ง อ้างว่าเป็นหัวหน้าชุด ก่อนที่ชายคนดังกล่าว จะแจ้งกับผู้เสียหายว่า หากอยากจะให้จบเรื่อง ให้นำเงินมามอบให้จำนวน 20,000 บาท แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงินให้ กลุ่มชายดังกล่าวจึงให้ผู้เสียหายเอาเงินที่มีอยู่ในตัวทั้งหมดจำนวน 5,500 บาท มามอบให้ โดยให้ใส่ไว้ในกระติกน้ำเเข็งที่วางอยู่หน้ารถ ด้วยความกลัวจึงยอมทำตาม

หลังจากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ได้ขึ้นรถตู้ และพาผู้เสียหายนั่งวนไปในซอยเอื้ออาทร ก่อนจะขับกลับมาส่งที่ร้าน แล้วขับออกไป

จากการรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น พบว่า ชายฉกรรจ์ทั้ง 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้เตรียมส่งหนังสือถึง อธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว พร้อมกับเร่งดำเนินการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นจะสรุปสำนวนส่งให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป