ข่าว

เปิดประวัติ 'บิ๊กก้อง' พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช จากมือปราบ บรรยิน สู่ สารวัตรซัว

18 ก.พ. 2566

เปิดประวัติ 'บิ๊กก้อง' พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ตำรวจหนุ่มไฟแรง จากมือปราบ บรรยิน สู่ 'สารวัตรซัว' ผู้คร่ำหวอดคดี ดัง ใหญ่ แพง

การตามล่าหา “สารวัตรซัว” ผู้ที่ถูกชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปง เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ระดับหมื่นล้านของประเทศ ทำให้ชื่อของ “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ปรากฎออกมาอีกครั้ง เมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงาน สะสางคดีนี้

 

หากจะไล่เรียงพลิกปูมการทำงาน ก็จะพบว่า บิ๊กก้อง มีประวัติไม่ธรรมดา ในฐานะผู้คร่ำหวอดในคดี ‘ดัง-ใหญ่-แพง’ นับเป็นตำรวจหนุ่มไฟแรง และว่ากันว่า มีโอกาสสูง ที่จะไปลงเอยที่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในอนาคต เพราะยังเหลืออายุราชการอีกหลายสิบปี

ประวัติที่ไม่ธรรมดา

 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช หรือ บิ๊กก้อง เกิดวันที่ 2 ธันวาคม 2518 ปัจจุบันอายุ 48 ปี เป็นน้องชายของ พล.อ.จักรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ บิดา คือพล.ร.อ.สมภพ ภูริเดช ดำรงตำแหน่งนายทหารราชองครักษ์พิเศษ หลังเกษียณราชการจากกองทัพเรือ ในตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือภาค 3 ส่วนมารดา คือ นางรสสุคนธ์ ภูริเดช อดีตข้าราชการกรมสรรพากร และอดีตวุฒิสมาชิกผู้ล่วงลับ และมีพี่เขย คือ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปัจจุบันคือ พล.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการหน่วยถวายความปลอดภัยรักษาในพระองค์

 

จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 34 และ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 50 ระดับปริญญาโทจาก คณะการบริหารข้อมูลสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลมิชิแกน ระดับปริญญาเอก วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ จบหลักสูตรเอฟบีไอรุ่นที่ 271 จากสหรัฐอเมริกา

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

เริ่มรับราชการตำแหน่งแรก เป็นรองสารวัตรฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เป็นรองสารวัตร แผนก 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ก่อนติดยศ พ.ต.ต. เป็นสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จากนั้น ก็ขึ้นเป็นรองผู้กำกับการท่องเที่ยวภูเก็ต และได้ขึ้นเป็น ผู้บังคับการท่องเที่ยวภูเก็ต ต่อมาได้ย้ายกลับถิ่นเก่า มาเป็น ผู้กำกับการ 1 บก.ป. เมื่อปี 2557 ก่อนขึ้นเป็นรองผู้บังคับการกองปราบ เมื่อ มิ.ย. 2560

 

ไม่ถึง 2 เดือน ก่อนอายุครบ 43 ปีบริบูรณ์ เขาทำพิธีรับมอบตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบจาก พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2561

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

  • 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 – ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.)
  • 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)
  • 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)

 

ดาวรุ่งพุ่งทะยาน

 

ในวัยเพียง 46 ปีบริบูรณ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ขึ้นเป็น ผบช.ก. ที่อายุน้อยที่สุด นับแต่ก่อตั้งหน่วยมาเมื่อปี 2494 สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เรืองอำนาจ เขาทำลายสถิติที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ทำไว้เมื่อปี 2540 ด้วยอายุ 49 ปี

 

ตำแหน่ง ผบช.ก. เรียกได้ว่า พล.ต.ท.จิรภพ คือนายตำรวจที่กุมอำนาจสอบสวนคดีอาชญากรรมทั่วประเทศไว้ในมือ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

 

ผลงานโชกโชนมือปราบ ดัง-ใหญ่-แพง

 

  • ปี 2557 พล.ต.ท.จิรภพ ทำคดียักยอกเงินภายในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่มีเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท
  • ในปี 2558 มีส่วนร่วมในการสางคดีลอบสังหาร “สมยศ สุธางค์กูร” เจ้าพ่อวงการคาเฟ่ ซึ่งมีปมขัดแย้งเรื่องหนี้สินการพนัน การวิ่งเต้นเพื่อล้มคดียาเสพติด และยังมีความขัดแย้งเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 คดีต่าง ๆ เหล่านี้ มีเม็ดเงินไหลเวียนเกี่ยวพันประมาณ 25 ล้านบาท 
  • ในปี 2559 มีส่วนร่วมในการจับกุม ‘หญิงไก่’ นางมณตา หยกรัตนกาญ จำนวนหลายคดี แต่คดีสำคัญที่สุดที่หญิงไก่ถูกตั้งข้อหาคือ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากหญิงไก่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า ตนเป็น ‘ท่านผู้หญิง’ ด้วยการแอบอ้างว่า มีผู้หลักผู้ใหญ่พาเข้าวังจนได้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องสูง
  • ในปี 2562 เรียกได้ว่าเป็นอีกผลงานเด่น คือ การตั้งทีม "หนุมานกองปราบ" หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม มีประสงค์ให้กองปราบปรามมีชุดปฏิบัติการของหน่วยตัวเอง เพื่อจะได้เรียกใช้สำหรับภารกิจต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ หน่วยคอมมานโด ซึ่งเคยสังกัดกองปราบปราม ได้แยกตัวไปอยู่ในสังกัดกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
  • ในปี 2563 พล.ต.ท.จิรภพ บังคับบัญชา ‘หน่วยหนุมาน’ หน่วยพิเศษของกองปราบปราม ร่วมกับ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. และกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 เข้าควบคุมสถานการณ์ ‘กราดยิงโคราช’
  • และคดีใหญ่ที่สุดคดีหนึ่งในสังคมไทย คือการจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต สส.นครสวรรค์ ปี 2544 และปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย ที่กำลังวางแผนจะแหกคุกเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ขณะนั้น บรรยินกำลังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ข้อหาปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และคดีอื่น ๆ แต่ตำรวจกองปราบปราม ซึ่งนำโดย พล.ต.ท.จิรภพ สืบทราบแผนการและขัดขวางความพยายามในการแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน เอาไว้ได้
  • เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเลือก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็นกรรมการอิสระ ทอท. และตำแหน่งกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการ ทอท. คนใหม่ แทนนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ที่จะครบวาระในเดือนเมษายน 2566

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช จึงถือเป็นนายตำรวจรุ่นใหม่ ที่มีผลงานทั้งด้านการปราบปราม และปรับเปลี่ยนหน่วยงานใหญ่อย่างกองบัญชาการสอบสวนกลาง แต่ภายใต้การเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา จึงมีการคาดหมายกันว่า คุณสมบัติ อย่าง "บิ๊กก้อง" คือตัววางที่จะถูกผลักดันสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. ในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน