ข่าว

ศาลแพ่งสั่งอายัดทรัพย์ชั่วคราว'หุ้นMORE' มูลค่า 4,470 ล้านก่อนมีคำพิพากษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลแพ่ง สั่งอายัดทรัพย์สิน"หุ้น MORE" จำนวน 59 รายการ มูลค่ากว่า 4,470 ล้านบาท ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษา หลังอสส.ยื่นคำร้องไต่สวนฉุกเฉินขอยึดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดคืนผู้เสียหาย

16 ก.พ.2566  สำนักงานคดีพิเศษได้รับสำนวนคดีการตรวจสอบและการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกรณีคดี บมจ. มอร์ รีเทิร์น ดี หรือ MORE จาก ปปง. เพื่อขอให้พนักงานอัยการรับดำเนินการและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของ ผู้ถูกกล่าวหา ตกเป็นของแผ่นดิน ที่มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวล กฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 

 

คณะทำงานสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2  สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยน.ส.แววตา ธวัชไพบูลย์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าวพิจารณาแล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมมานั้น

 

 

 

ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากับพวกเป็นผู้มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงินอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) และความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

 

รวมทั้งทรัพย์สิน จำนวน 59 รายการ เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณะเป็นความผิด มูลฐาน ตามมาตรา 3 (18 ) ดังกล่าวและยังมิได้ดำเนินการตามกฎหมายอื่นซึ่งหากดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เสียหายและแผ่นดินมากกว่า ทั้งมีเหตุพอที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของผู้เสียหายได้

 

 

ล่าสุดวันนี้  อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2  สำนักงานคดีพิเศษ รับดำเนินการและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอศาลได้โปรดทำการไต่สวนและมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว ก่อนมีคำสั่งตามมาตรา 51, 55 และยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหา กับพวก จำนวน 59 รายการ  รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4,470,877,185.15 บาท  พร้อมดอกผลของ เงิน หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 49 ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ต่อไปด้วย 


 

อย่างไรก็ตามการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินในวันนี้ เป็นการยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว และเมื่อ ปปง. รวบรวมผู้เสียหายและจำนวนเงินที่ได้รับความเสียหาย ให้พนักงานอัยการในลำดับต่อไปแล้ว พนักงานอัยการจะแก้ไขคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งนำทรัพย์สินนั้นคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป จึงขอให้ผู้เสียหายติดต่อแจ้งรายละเอียดแห่งความเสียหายเพื่อให้ ปปง. และพนักงานอัยการดำเนินการให้ได้รับการชดใช้ตามกฎหมายต่อไป 
   

 

และในวันนี้  ศาลแพ่งได้มีคำสั่งไต่สวนคำร้องฉุกเฉินขอให้ยึด และอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยให้เลขาธิการ ปปง.เป็นผู้ดำเนินการยึดหรืออายัด เก็บรักษาทรัพย์สิน รวมถึงแจ้งคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ