ข่าว

ผบช.ก. เปิดรับข้อมูล 'สารวัตรซัว' จากทุกฝ่าย ไม่หวั่นคอนเน็กชั่นบิ๊กตร.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ประชุมแบ่งงานตรวจสอบ 'สารวัตรซัว' ยึดพยาน หลักฐานตามกฎหมาย ย้ำลูกหลานใคร ไม่ใช่ประเด็น พร้อมเปิดรับข้อมูลทุกฝ่าย

กลายเป็นคดีที่กำลังเป็นที่จับตามองในสังคม เมื่อมีชื่อของตำรวจอย่าง 'สารวัตรซัว' เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า888 ซึ่งได้มีการสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนแล้วก่อนหน้านี้ โดยในวันนี้ (13 ก.พ. 66) ได้มีการประชุมคณะทำงาน ตรวจสอบข้อมูล 'สารวัตรซัว' หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง เพื่อมอบหมายงาน แบ่งประเด็นในสืบสวนสอบสวน

 

 

โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ออกมาเปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลักๆ จะเน้นไปที่การตรวจสอบให้แน่ชัดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบทรัพย์สิน การตรวจสอบบริษัท และ บุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยึด พยาน หลักฐาน ตามกฎหมาย ย้ำลูกหลานใครไม่ใช่ประเด็น และพร้อมยินดีเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ถือว่าเป็นประโยชน์ และจะนำไปตรวจสอบต่อ

 

ทั้งนี้ เมื่อถามว่า ตัวผู้ถูกกล่าวหามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ อาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือ ทำลายหลักฐานต่างๆ จนยากต่อการตรวจสอบ จะมีผลต่อการดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ก็มีเป็นกังวลบ้าง เพราะเรื่องเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดการขยับโยกย้ายทรัพย์สิน และเส้นเงิน แต่เชื่อว่าอาชญากรรมไม่ว่าจะรูปแบบใดย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้เสมอ หากกระทำผิดจริง เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยตรวจสอบได้อย่างแน่นอน 

 

 

ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆ ขอเวลาสักระยะหนึ่ง เมื่อพยานหลักฐานมีมากพอ ก็จะตั้งเป็นคดีและเชื่อว่าจะสามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน

 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง

 

ส่วนกรณีผู้ถูกกล่าวหา มีเพื่อนร่วมรุ่นลูกอดีต ผบ.ตร. และมีความสัมพันธ์กับนายพล "จ." นั้น จะมีผลต่อการดำเนินงานหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า เราดำเนินการตามข้อเท็จจริง จะเป็นลูกใคร หลานใคร ไม่ใช่ประเด็นหรือสาระ ยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง 

 

 

ส่วนเรื่องบทลงโทษทางวินัย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของต้นสังกัด ทางเราดำเนินการเฉพาะในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งหากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ทางเราจะรายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกขั้นตอนอยู่แล้ว

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า คณะทำงานฯ ยินดีเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือใครก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นประโยชน์ และจะนำไปตรวจสอบต่อ ส่วนที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูลมาจำนวนมาก และเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่จะนำไปดำเนินการตรวจสอบ หากปรากฎเป็นข้อเท็จจริงที่ผิดกฎหมาย ก็จะใช้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนการจะเรียก นายชูวิทย์ มาให้ปากคำหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ