ข่าว

ตร.แนะ 3 ข้อไม่ตกเป็นเหยื่อโจรหลอกรักออนไลน์รับ'เทศกาลวาเลนไทน์'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยรักออนไลน์รับ"เทศกาลวาเลนไทน์" ย้ำเขาอาจจะคุยกับเรา เพราะแค่อยากได้เงินเรา แนะวิธีสังเกต 3 ข้อไม่ตกเป็นเหยื่อ

พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (รองโฆษก ตร.) เผยว่าสถิติอาชญากรรมออนไลน์ประจำเดือน มกราคม 2566 พบว่าสถิติคดีเกี่ยวกับการหลอกให้รักยังสูงถึง 403 คดี แบ่งเป็นคดีประเภทหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน จำนวน 168 เรื่อง และคดีหลอกลวงให้รักแล้วลงทุน จำนวน 235 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 190 ล้านบาท

 

สำหรับภัยออนไลน์เกี่ยวกับความรักหรือ Romance Scams  เป็นการใช้เทคนิคทางจิตวิทยาพัฒนาความสัมพันธ์กับเหยื่อผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างความเชื่อใจระหว่างบุคคล แล้วทำการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการได้รับเงิน ซึ่งในปัจจุบันพบหลากหลายวิธี 

 

-หลอกให้รักแล้วโอนเงิน (Romance scam)

- หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) 

- หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท (Remote access scam) ทำการดูดเงินในบัญชี

- หลอกให้รักแล้วแบล็คเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ 

 

 

 

4 กลอุบายที่มิจฉาชีพ ใช้หลอกลวงเหยื่

 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะข้อสังเกตแจ้งเตือนประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโจรลวงรักออนไลน์ ดังนี้

 

ใช้รูปโปรไฟล์ของคนหน้าตาดี 

มิจฉาชีพมักจะสร้างตัวตนปลอมโดยใช้รูปโปรไฟล์ที่หน้าดึงดูด คุยเก่งอัธยาศัยดี มีประวัติที่น่าสนใจ จึงควรตรวจสอบ ยืนยันตัวบุคคลที่เราคุยด้วยทางออนไลน์ให้ชัดเจนในหลากหลายช่องทาง และต้องระลึกไว้ว่าเอกสารยืนยัน  หรือเว็บไซต์บริษัทหรือหน่วยงานที่ปรากฏชื่อคนที่เราคุยด้วยอาจถูกปลอมแปลงขึ้นมาอีกที  และหากมีการขอให้เปลี่ยนช่องทางในการคุย โดยการแนะนำให้ดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่น หรือกดลิงค์ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน ห้ามกดเด็ดขาด เพราะอาจเป็นแอปรีโมทที่สามารถดูดเงินให้บัญชีของเราได้ 

 

หลอกขายฝัน

มิจฉาชีพมักจะแสร้งว่ามีความรักความปรารถนาดีให้ และทำการแนะนำให้ทำการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต หรือหลอกว่าจะมาใช้ชีวิตหรืออนาคตด้วยกัน  หากคนที่กำลังคุยทางออนไลน์มีการชักชวนให้ทำการลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ หรือขอความช่วยเหลือด้านการเงิน เช่น ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล และค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าภาษีของมีค่าของขวัญที่ส่งมาให้ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ

 

 

 

ตร.แนะ 3 วิธีสังเกตไม่ตกเป็นเหยื่อหลอกรักออนไลน์

 

 

ลวงเอาข้อมูลส่วนตัว

มิจฉาชีพมักจะคุยและหลอกล่อให้เราเผยข้อมูลส่วนตัว หรือส่งเอกสารสำคัญให้ เพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิดและสร้างความเสียหาย ต้องระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวทางสื่อสังคมออนไลน์ การเช็กอิน การเปิดเผยกิจวัตรประจำวันที่มากเกินไป และไม่ส่งรูปภาพ คลิปวีดีโอ หรือการวีดีโอคอล ในลักษณะโป๊เปลือย ที่อาจนำไปสู่การแบลกเมล์เรียกค่าไถ่ รวมถึงการนัดพบกับคนคุยออนไลน์ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน อยู่เสมอ ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด 

 

และในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ นี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้พื้นที่ทั่วประเทศกำหนดมาตรการเชิงรุกในการดูแลความปลอดภัย “Stop Walk Talk” จัดสายตรวจออกตรวจตราเฝ้าระวังพื้นที่ที่ล่อแหลมหรือเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม การคุกคามทางเพศ หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม

 

หากประชาชนพบเหตุการณ์ บุคคล หรือวัตถุต้องสงสัย โปรดแจ้ง 191 หรือ 1599 นอกจากนี้ ศูนย์ PCT มีการเตือนภัยเกี่ยวกับรูปแบบกลโกงของคนร้าย หากสงสัยจะตกเป็นเหยื่อสามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 และผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ