5 หน่วยงาน ย้ำชัด"บุหรี่ไฟฟ้า"ผิดกฎหมาย หากเจอทั้งคนสูบ คนขายจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที ขู่ฟัน ตำรวจหากละเว้น-เรียกรับผลประโยชน์ มีความผิด
10 ก.พ.2566 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พร้อมด้วยผู้แทน จาก 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค , กรมศุลกากร , กรมการค้าต่างประเทศ และกรมควบคุมโรค ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริง สร้างความรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง กรณีการบังคับใช้กฎหมายกับบุหรี่ไฟฟ้า และพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
1. กรณีผู้ขาย หรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีคำสั่งที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหลายชนิด รวมทั้งโลหะหนัก ที่เป็นสารก่อมะเร็ง และมีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ส่งผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุ และพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนั้นยังเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษา หรือไม่
3.กรณีผู้ครอบครอง หรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร จะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่า เป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ เมื่อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามถึงแม้ว่าไม่มีเจตนาหรือไม่รู้ว่าเป็นของมีความผิด ก็ต้องถูกริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน และนำไปทำลายตามกฎหมายของศุลกากร
ส่วน สคบ.จะดำเนินคดีกับผู้ลักลอบจำหน่าย หรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ หรือบารากู่ไฟฟ้าทุกราย หากผู้ใดพบเห็นการจำหน่ายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ หรือบารากู่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 ในวันและเวลาราชการ และผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่ “ระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค” หรือ โมบายแอพพลิเคชั่น “OCPB Connect ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งสถานีตำรวจในท้องที่
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้มีการเร่งรัดกวาดล้างจับกุม โดยเน้นไปที่ผู้ค้าผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือพบว่ามีการจำหน่าย หรือครอบครอง สามารถดำเนินการจับกุม และบังคับใช้กฎหมายได้ หากพบการกระทำผิดไม่ดำเนินการใด ๆ ก็จะถือว่ามีความผิดฐาน ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และกรณีที่เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ตามที่ปรากฎเป็นข่าว ก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง