รณสิทธิ์ ตั้งข้อสังเกต ลาลิซ่า เข้าข่าย ฟอกเงิน หรือไม่

การเปิดเผยและเข้าตรวจสอบของตำรวจ กับ อาบ อบ นวด ลาลิซ่า กับ เดอะ ลอร์ด พาเลซ โฮเทล แอนด์ สปา ทำให้สังคมให้ความสนใจ ด้วยความที่มันถูกระบุว่า ทั้ง 2 แห่ง เป็นของเจ้าของที่เคยถูกดำเนินคดีค้ามนุษย์ อย่าง นายกำพล วิระเทพสุภรณ์  เจ้าของ วิคตอเรีย ซีเครท ในความเป็นจริงทรัพย์สินต่าง ๆ ต้องถูกยึดทรัพย์  แต่หลุดรอดมาจนเกือบพร้อมเปิดใหม่ 

รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี ได้เปิดประเด็น พิรุธ "อาบอบนวด" ใหม่โยงทุนสีเทา? เพื่อพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง ในเรื่องนี้ และให้สามารถทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

รณสิทธิ์  พฤกษยาชีวะ  ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เด็ก และสตรี  กล่าวว่า เครือข่ายอาบอบนวดในเครือข่ายเจ้าของเดียวกัน มีอยู่หลายที่ด้วยกัน ตามปกติในคดีค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ปปง.ต้องเข้ามาตรวจสอบ แต่ปัจจุบันที่เห็น คือมีสถานบริการบางส่วน 2 แห่ง  กลับมาเปิดบริการได้อยู่  เมื่อตรวจสอบ พบผู้ถือหุ้น กรรมการผู้มีอำนาจ

ซึ่งก็ยังเป็น เครือข่าย เครือญาติ ของ นายกำพล  เมื่อถามว่าทำไมกลุ่มคนเหล่านี้ ที่ถูกดำเนินคดีไปด้วยแล้ว ถึงกลับมาเปิดสถานบริการได้อีก ก็นำไปสู่เรื่องของขบวนการในการช่วยเหลือผู้ต้องหา ให้พ้นผิด มีความสงสัยที่อยากจะถามถึง ปปง. ว่า ทรัพย์สินเหล่านี้ เกิดขึ้นระหว่างการกระทำความผิดคดีค้ามนุษย์ของนายกำพลหรือเปล่า แล้วเมื่อยึดทรัพย์สินไปแล้ว ทำไมถึงได้ปล่อยออกมา ทำไมไม่ถูกอายัด

ความกว้างขวางของ กำพล พบว่ามีความคุ้นเคยกับข้าราชการใน ปปง. ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การปล่อยทรัพย์สินบางอย่างออกมาจากการอายัด ต้องมีการชี้แจง  ทรัพย์สินที่ถูกปล่อยออกมา เจ้าของคือ บริษัท เซเว่น ฮอลลิเดย์ โฮเทล จำกัด กรรมการผู้การผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว คือ  ธนพล วิระเทพสุภรณ์ ลูกชายของกำพล ซึ่งเคยถูกกล่าวหาคดีค้ามนุษย์ แต่หลุดคดีมาได้ โดยอาศัยการใช้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่สั่งไม่ฟ้อง แม้ศาลอุธรณ์จะบอกว่า คำตัดสินนั้นจะไม่ถูกต้อง แต่กลายเป็นคุณกับผู้ถูกกล่าวหา ทำให้มองว่า มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์หรือไม่ 

ในปัจจุบัน ธุรกิจ อาบ อบ นวด ในสายตา รณสิทธิ์ ถือว่า ซบเซาลง ผ่านยุครุ่งเรืองไปแล้ว แต่การพยายามกลับมาเปิดสถานบริการใหม่อีกครั้งในรอบนี้ จึงเต็มไปด้วยคำถามที่ว่า จะถูกใช้เป็นการฟอกเงินหรือไม่ เพราะหากมองความคุ้มทุนในการเปิด อาบ อบ นวด กับพื้นที่ ที่มีมูลราคาแพงระยับ นับ พันล้าน ถึง หมื่นล้านบาท เป็นอย่างน้อย ดูจะไม่สมเหตุสมผลอย่งาที่ควรจะเป็น 

ความเป็นไปได้ในการตั้งข้อสันนิษฐาน ของ รณสิทธิ์ จากข้อมูลที่มีอยู่ หนึ่งในคนใกล้ตัวของ กำพล มีผู้ที่มีความสนิทสนมกับนักลงทุนชาวจีน ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน 

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำนครบาล 2 ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อทราบว่า สถานที่ทั้ง 2 แห่ง เตรียมการจะเปิดบริการ ก็ได้สั่งการ ให้ สน.สุทธิสาร ซึ่งประสานความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดินแดง เข้าไปตรวจสอบตังแต่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่งได้แจ้งไปแล้ว่า การดำเนินกิจการรอบนี้ คือผู้บริหารกลุ่มใหม่ ต้องไปทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่ทางผู้ประกอบการเข้าใจผิดว่า สามารถใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการของเจ้าของเดิมได้  จากนั้นทราบว่า ได้ลักลอบเปิดบริการ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และทำการจับกุม  ถ้าจะทำการใช้ใบอนุญาตเดิม ต้องใช้ชื่อของเจ้าของกิจการเดิม จดแจ้งเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจ และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ดำเนินกิจการรายใหม่ ไม่ใช่ผู้ต้องห้าม ตาม มาตรา 6 พ.ร.บ.สถานบริการ หรือ ทำการขอใบอนุญาตใหม่

ส่วนประเด็นตั้งข้อสังเกต ที่จะมีความเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการฟอกเงินหรือไม่ ตอนนี้ ได้ดำเนินการตรวจสอบ ประชุมคณะทำงาน ซึ่งตั้งข้อสงสัยในประเด็น การเปิดใหม่ของผู้ประกอบการเดิม เพื่อเลี่ยงคำสั่ง ปปง.หรือไม่ รวมทั้งกรณีกลุ่มทุนที่เข้ามา เป็นการบังหน้าเพื่อฟอกเงินไหม ขณะนี้ ได้ทำหนังสือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเชิญผู้ประกอบการ มาแสดงความบริสุทธิ์ ให้ข้อเท็จจริงในการเปิดสถานบริการ เพราะถ้ามาประกอบกิจการโดยสุจริต ก็ต้องชี้แจงที่มาที่ไปในการเข้ามาดำเนินธุรกิจได้ 

โกศลวัฒน์  อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  ตอบคำถามเรื่องการไม่สั่งฟ้อง 2 แม่ลูก  ว่า จากข้อมูลที่ทราบจาก รณสิทธิ์ ที่ไม่ได้คำตอบในการติดตามคดี ต้องดำเนินการต่อ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาให้คำตอบ ส่วนประเด็นที่ว่า มีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้และดีเอสไอเห็นชอบแล้ว ตามกฎหมายก็ต้องยุติไว้ก่อน นอกจากมีพยานหลักฐานใหม่ จึงจะสามารถทำการรื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง