ย้อนเส้นทาง "อาบอบนวด" วิคตอเรีย ซีเครท ขุมทรัพย์ ย่านรัชดาภิเษก

กลับมาเป็นประเด็นร้อนฉ่าอีกครั้ง เมื่อข่าว "อาบอบนวด" ยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง ใจกลางกรุง ขุมทรัพย์ย่านรัชดาภิเษก ทั้ง "เดอะลอร์จ" และ "โคปาคาบาน่า" เตรียมกลับมาเปิดโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อใหม่ แต่สถานที่ตั้งเดิม 

 

ทั้งหมดโยงใยไปถึง "เสี่ยกำพล" เจ้าของ อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท หลังจากถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ นับตั้งแต่ปี 2561 จนถึงทุกวันนี้ ยังไร้เงาของเสี่ยกำพล 

1. วิคตอเรีย ซีเครท เป็น อาบอบนวด ขนาดใหญ่ มีห้องให้บริการจำนวนมากถึง 190 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. อดีตอาคารที่ตั้ง อาบอบนวด แห่งนี้ สร้างโดยชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ตั้งแต่ปี 2532 แล้วก็ถูกเข้าตรวจค้น จนเป็นข่าวใหญ่ เพราะ ถูกร้องเรียนว่า ลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แอบแฝงค้าประเวณี จากนั้นจึงเปลี่ยนมือ อยู่ภายใต้ผู้บริหารของ "เสี่ยกำพล" กำพล วิระเทพสุภรณ์

 

2. วันที่ 12 ม.ค.2561 ดีเอสไอ นำกำลังตรวจค้นสถานบริการ อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท หลังศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 8 ราย คือ เสี่ยกำพล เจ้าของ รวมทั้ง นายธนพล ลูกชาย และ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ฐานลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แอบแฝงค้าประเวณี โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมหญิงให้บริการ 113 คน

 

3. จากการสืบสวนพบว่า สถานบริการอาบอบนวดดังกล่าว เป็นที่ตั้งเดียวกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อมรินทร์ออนเซน มีหุ้นส่วน 2 คน คือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ และ นายอภิชาติ แซ่แต้ มีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นเจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท

 

4. การจับกุมครั้งนั้น ตำรวจแจ้งข้อหา นายบุญทรัพย์ อมรรัตนสิริ อายุ 55 ปี หรือ ป๋ากบ หัวหน้าเชียร์แขก โดยแจ้งไปทั้งหมด 6 ข้อหา ส่วนเสี่ยกำพลเจ้าของผู้ขอใบอนุญาตไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หรือ มีส่วนร่วมแต่อย่างใด แต่ต่อมาอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง ร่วมทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี โดยดีเอสไอ ได้ขอศาลออกหมายจับ

 

5. แต่นับตั้งแต่โดนคดีอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท "เสี่ยกำพล" ได้หลบหนีออกนอกประเทศ นับจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 ปี โดยสังคมมีการตั้งข้อสงสัยว่า ยังไม่มีการขึ้นข้อมูลการออกหมายแดงของ "เสี่ยกำพล" ในสารบบอินเตอร์โพล ซึ่งปัจจุบันยังติดตามตัวมายื่นฟ้องไม่ได้ โดยหมายจับมีอายุความในการติดตามตัวมาฟ้องภายใน 20 ปี

6. ชื่อของ "เสี่ยกำพล" ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า 2 อาบอบนวด ชื่อดัง ย่านรัชดาฯ "เดอะลอร์จ" และ "โคปาคาบาน่า" กำลังจะกลับมาเปิดอีกครั้ง ภายใต้ชื่อใหม่ ซึ่งคาดว่า เบื้องหลังของนายทุนใหม่ จะเป็นกลุ่มทุนจีน ที่เชื่อมโยงกับพนันออนไลน์ และการฟอกเงิน 

 

7. ย้อนไป 5-6 ปี ก่อน นักท่องเที่ยวย่อมรู้จัก อาบอบนวด เดอะลอร์จ ตั้งอยู่ที่รัชดาภิเษกซอย 7 เป็นสถานบริการระดับ 5 ดาว หรูหรา แต่เมื่อ เสี่ยกำพล เจ้าของอาบอาบนวด วิคตอเรีย ซีเครท พร้อมภรรยา ถูกจับดำเนินคดีใน 12 ข้อหา จนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้ เดอะลอร์จ ก็สะดุดไปด้วย จนกระทั่งต้องปิดกิจการไปโดยปริยาย 

8. สังคมจับตาไปที่ ใครเป็นผู้เข้ามาดำเนินธุรกิจอาบอบนวดทั้งสองแห่งนี้ต่อ เนื่องจากพบว่า เป็นอาบอบนวดระดับวีไอพี ประเด็นจึงพุ่งตรงไปที่ กลุ่มทุน ว่าจะเป็น กลุ่มทุนเดิมถือผ่านนอมินี กลุ่มทุนจีนเทา กลุ่มทุนสายพนันออนไลน์ หรือ กลุ่มทุนสายฟอกเงิน 

 

9. สายป่านเริ่มสั้นลง วันที่ 25 ม.ค.2566 นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ ให้การช่วยเหลือ "เสี่ยกำพล" ทำให้ทั้งทรัพย์สิน ที่ดิน อาคารเดอะลอร์ด และที่ดิน พร้อมอาคารโคปาคาบาน่า มูลค่าหลายพันล้านบาท ถูกยึดอายัด โดยเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ ปปง. รู้เห็น จนนำมาสู่การจะเปิดกิจการใหม่ ทั้ง เดอะลอร์ด และโคปาคาบาน่า โดยกลุ่มทุนพนันออนไลน์ กลุ่มทุนจีน และกลุ่มนอมินีของนายกำพล  

 

10. รณสิทธิ์ เปิดข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เกิดเหตุเมื่อปี 2561 เสี่ยกำพล มีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ ปปง. ระดับสูง 2 คน ชื่อย่อ ช.และ ป. มีการจ่ายเงินมูลค่า 50 ล้านบาท และพระเครื่อง จนอาจเป็นที่มา จนทำให้สถานบริการดังกล่าว ไม่ถูกยึดหรืออายัด 

 

11. อาบอบนวด เดอะลอร์ด ที่จะกลับมาเปิดใหม่ ภายใต้ชื่อ พาเลซ โฮเตล แอนด์ สปา เป็นการเข้ามาดำเนินธุรกิจโดยกลุ่มทุนใหม่ ชื่อย่อ ธ. เป็นเครือข่ายของเสี่ยกำพล ไม่ทราบว่าเป็นการเข้ามาทำธุรกิจในลักษณะนอมินี หรือโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ไม่ถูกยึด และนาย ธ. เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงการพนัน และได้ดึงกลุ่มทุนจีน ที่อยู่ในแวดวงพนันเข้ามาร่วมธุรกิจ และยังมี นายธนพล ลูกชาย และ นาย บ. ที่เป็นทุนหลักของเสี่ยกำพล

 

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า เสี่ยกำพล อยู่ที่ไหน ต่างประเทศ หรือในประเทศ แต่ในส่วนของนายธนพล และนางนิภา อยู่ในประเทศไทย แถมปัจจุบันเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ลงนามบริษัทเซเว่น ฮอลิเดย์ โฮเท็ล จำกัด ซึ่งบริษัทดังกล่าว ถือกรรมสิทธิที่ดินของเดอะลอร์ด และมีการลงนามให้กลุ่มทุนใหม่เปิดดำเนินกิจการ ในชื่อใหม่ที่ชื่อว่า พาเลส โฮเตล แอนด์ สปา