"รณสิทธิ์" ยื่น สอบ จนท.รัฐ เรียกรับเงิน เอื้อประโยชน์ "เสี่ยอ่างรัชดาฯ"

นาย "รณสิทธิ์" พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี เข้ายื่นหนังสือ ให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช. ) ขอให้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวก

รวมถึงตรวจสอบกระบวนการยึดทรัพย์สินของ นักธุรกิจ อาบ อบ นวด ย่านรัชดาฯ ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ และครอบครัว ที่ถูกดำเนินคดีต้องแต่ปี 2561

นายรณสิทธิ์ ระบุว่า นายกำพล มีทรัพย์สินที่ถูกอายัดเมื่อครั้งถูกดำเนินคดี กำลังจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ด้วยกลุ่มนายทุนใหม่ จึงเกิดตั้งข้อสังเกตว่า มีการยึดจริงหรือไม่ เนื่องจากทราบว่า เมื่อปี 2561 เสี่ยคนดัง มีความสนิทสนมกับผู้บริหาร ปปง. อักษรย่อ ป. พร้อมทั้งมีการจ่ายเงินสด 50 ล้านบาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง 

ตนก็ไม่ทราบว่า เกี่ยวข้องกับการที่ทรัพย์สินบางส่วนไม่ถูกยึดหรือไม่ โดยเฉพาะ อาบ อบ นวด โคปาคาบาน่า และเดอะลอร์ด รวมถึงบ้านพักของเสี่ยคนดัง ซึ่งปัจจุบันทรัพย์สินดังกล่าว กำลังกลับมาเปิดกิจการใหม่ โดยนายทุนใหม่ 

นอกจากนี้ ข้อมูลยังพบว่า เสี่ยอ่างคนดังรายนี้อาจเป็นนอมมินี อักษรย่อ ธ. ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับวงการพนันออนไลน์ ที่มีกลุ่มนายทุนจีน ซึ่งไม่รู้ว่านายทุนจีนกลุ่มนี้เข้ามาเพื่อทำธุรกิจจริงๆ หรือเข้ามาฟอกเงินกันแน่ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจ อาบ อบ นวด ค่อนข้างซบเซา แต่กลับทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านบาท โดยไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือไม่

นายรณสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การยื่นร้องเรียนในวันนี้ เนื่องจาก มูลนิธิฯ ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐมาตั้งแต่แรก กรณีที่นำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี พบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตรวจสอบพบ ทั้งเสี่ยอ่างคนดัง-ภรรยาและลูกชาย มีเงินจากการทำธุรกิจดังกล่าวเข้าไปในบัญชีทั้ง 3 คน แต่ภายหลังอัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดีค้ามนุษย์ และคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีการชี้แจง หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพยาน หรือหลักฐานอะไรที่สั่งไม่ฟ้อง

ปัจจุบัน ทั้ง 2 แม่ลูก กลับเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศ โดยลูกชายยังเข้ามามีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัทแห่งหนึ่ง ดำเนินกิจการ อาบ อบ นวด ที่กำลังจะเปิดใหม่ ส่วนเสี่ยอ่างคนดัง ขณะนี้ยังไม่ทราบสถานะ หรือพักพิงอยู่ที่ใด แต่ยืนยันว่า เสี่ยอ่างคนดังถูกดำเนินคดีรวม 12 ข้อหา โดยเฉพาะคดีค้ามนุษย์ ที่มีมูลฐานความผิดในข้อหาฟอกเงิน แต่ล่าสุดเมื่อตรวจสอบกลับไม่พบว่า มีหมายจับ

ส่วนหลักฐานการการมอบเงิน 50 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ตนยืนยันว่า มีหลักฐาน แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากจะนำไปยื่นให้ ป.ป.ช. ส่วนกิจการใหม่ที่กำลังจะเปิดบน ถ.รัชดาภิเษก ในปลายมกราคมนี้ จะมีการเปลี่ยนชื่อจากโคปาคาบาน่า จะเปลี่ยนเป็นลาลิซ่า ส่วนเดอะลอร์ด จะเปลี่ยนเป็น เดอะลอร์ด พาเลท แอนด์ สปา