เปิดหลักเกณฑ์ ขอ "รถนำขบวน" จากตำรวจทางหลวง ต้องทำยังไง บุคคลใดมีสิทธิ์บ้าง
เปิดหลักเกณฑ์ ขอ "รถนำขบวน" จาก ตำรวจทางหลวง ต้องทำยังไง บุคคลใดมีสิทธิ์บ้าง หลังโซเชียลถกเถียงหนัก "เที่ยวแบบvvip" ทำแบบนี้ได้จริงหรือ
จากประเด็นคลิปฉาวที่เป็นกระแสร้อนแรงบนโลกโซเชียล กรณีที่ นักท่องเที่ยวจีน โพสต์คลิป "เที่ยวแบบvvip" ได้รับบริการสุดพิเศษ มี "รถนำขบวน" มารับพาไปส่งถึงโรงแรมที่พัทยานั้น
ล่าสุด ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีนี้ โดยได้มีคำสั่งย้าย 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และอยู่ระหว่างการพิจารณาลงโทษ
ในส่วนของ "รถนำขบวน" นั้น ทาง ตำรวจทางหลวง ได้เคยออกมาบอกถึงขั้นตอนการขอรถนำขบวน ซึ่งมีดังนี้
การนำขบวนโดยการร้องขอเป็นครั้งๆ ไป
*เป็นกรณีตามความจำเป็นแห่งโอกาสสำหรับบุคคล โดยจะต้องร้องขอและได้รับอนุญาตตามระเบียบ
- ขบวนที่มีความจำเป็นต้องใช้ตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัยของขบวนหรือความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน
- ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการที่มีรถหลายคัน หรือกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนของบุคคลผู้มีหน้าที่ต่างๆ ในทางราชการเพื่อเดินทางไปปฏิบัตืภารกิจสำคัญทางราชการ
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา
1. เส้นทางที่จะไปเป็นเส้นทางอันตรายเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
2. มีจำนวนรถในขบวน รถโดยสารไม่ประจำทาง 8 คัน หรือ รถยนต์เก๋ง 10 คัน หรือ รวมกัน 10 คันขึ้นไป
3. ต้องมีรถวิทยุตรวจการณ์เพียงพอ ไม่กระทบภารกิจหลักหรือการถวายความปลอดภัยฯ , คำนึงถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในภารกิจประจำด้วย
เอกสารที่ใช้และเหตุผลประกอบการขอรถนำขบวน
- หนังสือจากหน่วยงาน เรียนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง
- แสดงเหตุผลความจำเป็น จำนวนรถในขบวน วันเวลาและส้นทาง ต้นทาง-ที่หมาย
- ผู้ประสานงานพร้อมหมายเลขโทรศัพท์
สำหรับการยื่นขออำนวยความสะดวก นักท่องเที่ยว จาก ตำรวจท่องเที่ยว นั้น สามารถทำได้ แต่ต้องมีคำสั่งการขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะต้องเป็นกรณีของคนเจ็บ, คนป่วย, วีไอพี ที่เป็นแขกรัฐบาล หรือเอกชนที่มาความสำคัญ ที่สร้างผลกระทบในความเป็นบวกกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย
อาจมีกรณีพิเศษได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ทำรายได้หลักของประเทศ หรือ วีไอพี ที่เดินทางเข้ามาประชุมในประเทศไทย ซึ่งเมื่อมีรายงานขออนุญาตตามกรณีดังกล่าวแล้ว ทางตำรวจระดับผู้บังคับการหน่วยงานก็สามารถเซ็นต์คำสั่งอนุมัติได้ทันที
สำหรับหลักเกณฑ์การใช้ "รถนำขบวน" ของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (สจร.) เสนอ หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย ดังนี้
นอกจากขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีรถนำขบวนเป็นปกติแล้ว บุคคลสำคัญและนักการเมืองตำแหน่ง ที่สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้ มีดังนี้
1. กรณีในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ใช้รถตำรวจเป็นประจำ มีดังต่อไปนี้
- นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา รัฐบุรุษ องคมนตรี
- สมเด็จพระสังฆราช
- รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือรัฐมนตรีว่าการทบวง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รัฐมนตรีช่วยว่าการ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรของฝ่ายบริหาร
2. กรณีในเขตกรุงเทพมหานคร ใช้เป็นครั้งคราว มีดังต่อไปนี้
- ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ ประมุขรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ และเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
- ข้าราชการประจำตั้งแต่ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป
การอนุญาตเป็นครั้งคราว ผู้บังคับการตำรวจจราจรหรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจจราจรเป็นผู้พิจารณาอนุญาต
3. กรณีนอกเขตกรุงเทพมหานคร มีดังต่อไปนี้
- บุคคลใช้รถนำประจำ ตามข้อ 1
- บุคคลใช้รถนำเป็นครั้งคราวตามข้อ 2
- การขออนุญาตผู้บังคับการตำรวจทางหลวงหรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเป็นผู้พิจารณาอนุญาต
ข้อยกเว้น
ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้ใช้รถนำขบวนฝ่ายทหารเอง แต่วิธีการใช้รถนำของฝ่ายทหารดังกล่าว ให้ใช้หลักเกณฑ์วิธีการใช้รถนำของฝ่ายตำรวจ เช่น การใช้ไฟสัญญาณแสงแดงวับวาบ เสียงไซเรน
บุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งที่สำคัญและเมื่อผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วยังคงให้ใช้รถตำรวจนำขบวนได้
- กรณีในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำ คือ ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
- กรณีนอกเขตกรุงเทพมหานคร ใช้ประจำ คือ ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
การใช้รถนำขบวนของรัฐมนตรี
รัฐมนตรีควรพิจารณาใช้รถตำรวจนำขบวนตามความจำเป็นและเร่งด่วนตามภารกิจของทางราชการเป็นกรณี ๆ ไป โดยแจ้งให้ทางฝ่ายที่มีหน้าที่จัดรถตำรวจ
นำขบวนทราบเป็นการล่วงหน้าไม่ควรใช้ในกิจส่วนตัว
การใช้รถนำขบวนในการรับรองแขกต่างประเทศ
การรับรองแขกต่างประเทศที่จะสามารถใช้รถนำขบวนได้ ต้องมีตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่งของผู้มีสิทธิใช้รถนำขบวน ทั้งการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2540
ประธานวุฒิสภา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นบุคคลสำคัญที่สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้