"ตม.1"สกัดจับกระบะติดฟิล์มทึบและที่บังแดดอีกชั้น ลักลอบขนต่างด้าวเข้าเมือง 10 คน จากจ.สุโขทัยไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา มีนายหน้าดำเนินการเรียกเก็บเงินสูงสุด 25,000 บาท
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 พ.ต.ต.มิตรชัย พรมจันทร์ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวน 4 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สืบสวนและเฝ้าระวังตามเส้นทางบริเวณ ถ.พหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะปฏิบัติหน้าที่พบเห็น รถกระบะ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับขี่มาด้วยความเร็วและขับขี่หวาดเสียว อาจจะก่อนให้เกิดอันตราย ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุด กลับเร่งความเร็วพยายามหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่ามีพิรุธจับขับขี่ติดตามไป จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.57-58 ถ.พหลโยธิน (ขาเข้า) ทล.1 ต.ลำทร อ.วังน้อย จ.พระนคศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จึงเข้าสกัด พบภายในรถติดฟิล์มทึบแถมติดที่บังแดดทับอีกชั้น นายตังชัย (สงวนนามสกุล) สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์อีกจำนวน 10 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทาง นั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว
ผู้ขับขี่ให้การยอมรับว่า วันที่ 6 มกราคม 2566 ได้รับการประสานจาก เพื่อนคนไทย โทรศัพท์มาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ จ.สุโขทัย จำนวน 10 คน เพื่อไปส่งใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ค่าจ้างเที่ยวละ 20,000 บาท โดยรับรู้ดีว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ทั้ง 10 ราย ให้การยอมรับว่า ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยและเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วจะมีคนพาออกมาขี้นรถนำไปหานายจ้างหรือนายหน้า เก็บเงินคนต่างด้าว รายละประมาณ 18,000-25,000 บาท
เบื้องต้นแจ้งข้อหา นายตังชัย " รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม " พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ และแจ้งข้อหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ 10 ราย "เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย" 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง