ข่าว

ยังไม่แจ้งข้อหาอื่น "กองสลากพลัส" เตรียมตัดโควต้าผู้ค้านำ ลอตเตอรี่ มาขาย

16 ม.ค. 2566

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยังไม่แจ้งข้อหาอื่นกับ "กองสลากพลัส" นอกจากขายสลากเกินราคา อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่ม และไม่ยึดหวย ขณะที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมตัดโควต้าผู้ค้านำ ลอตเตอรี่ มาขาย ให้ กองสลากพลัส เพราะทำผิดเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการจำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขาย สลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาเกินกว่าที่กำหนดใน สลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบบาล / สคบ. / สำนักงาน ป.ป.ง., กรมสรรพากร และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำหมายคันเข้าตรวจสอบ ภายในที่ตั้งของสำนักงาน บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ "กองสลากพลัส" เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดฯ

 

 

โดยขณะเข้าตรวจค้น ตำรวจได้แสดงหมายค้นกับ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ "นอท กองสลากพลัส" ก่อนจะเข้าตรวจค้น ซึ่งได้ตรวจค้นทั้งบริเวณชั้น 2 ที่ เป็นสำนักงาน และชั้น 12A สำหรับใช้สแกนล็อตเตอรี่ของผู้ค้าที่มาขายต่อ และเป็นคลังเก็บ ลอตเตอรี่ ไว้

 

ภายหลังการตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.ประจวบ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องทุกข์ของ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังพบว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ให้จำหน่ายสลากฯ โดยเป็นการรับซื้อมาจากบุคคลอื่นเพื่อนำมาขายต่อที่เกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด นอกจากนั้น จะตรวจสอบถึงเงินรายได้ประจำปี การเสียภาษี รวมทั้งเส้นทางการเงินที่ต้องสงสัยว่าได้รับโอนมาจากธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ โดยมีตัวแทนของแต่ละหน่วยงานร่วมตรวจสอบ 

 

 

และขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะการตรวจค้นวันนี้ก็เพื่อเก็บรวมรวบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน ยกเว้นการดำเนินการในข้อหา จำหน่ายสลากเกินราคา ตามที่ได้รับการร้องเรียน

 

 

ขณะที่ พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า นอกจากจะพบมีการจำหน่ายสลากเกินราคาแล้ว ทางแพลตฟอร์มยังไม่มีการคัดกรองให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี ซื้อสลากฯ และยังมีการร้องเรียนว่าโฆษณาชวนเชื่อให้มาซื้อสลากฯ ซึ่งผิดกฎหมายเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี ปี 2551 ระบุว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล คือการพนันชนิดหนึ่ง ไม่สามารถโฆษณาชักชวนให้มาซื้อได้ เว้นแต่การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ซึ่ง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่เคยโฆษณาชักชวนในลักษณะดังกล่าว 

 

 

และการเข้าตรวจสอบสลากฯที่ "กองสลากพลัส" ในวันนี้ ยังพบว่า มี สลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดวันที่ 17 มกราคม อยู่ที่กองสลากพลัส ประมาณ 11 ล้านใบ โดยในวันนี้ไม่ได้ยึดสลากไป แต่เก็บข้อมูลทุกใบ เพื่อไปตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่ จากนั้นไปตรวจสอบว่าเป็นโควต้าของใคร เพื่อนำไปสู้การยึดโควต้า ในงวดถัดไป 

 

บุกค้นกองสลากพลัส

 

พร้อมยืนยันว่า จะตัดสิทธิ์โควต้ากับผู้ค้าทุกรายที่นำมาจำหน่ายให้กับ "กองสลากพลัส"  เนื่องจากมีข้อกำหนดอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามขายช่วง หรือนำสลากไปขายส่งเด็ดขาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถตัดสิทธิ์โควต้าได้ภายในงวดวันที่ 16 มีนาคม หรือ อย่างช้าคือ 1 เมษายน นี้ เนื่องจากการจองสลากฯ ได้จองล่วงหน้าไปแล้ว และขอร้องผู้ค้าที่ถูกตัดสิทธิ์ ไม่ต้องมาประท้วงที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะถือว่าทำผิดระเบียบที่กำหนดไว้

 

 

หลังจากนี้ "กองสลากพลัส" จะสามารถขายได้หรือไม่นั้น พลโทหนุน บอกว่า สำนักงานสลากฯ ไม่มีอำนาจสั่งให้หยุดดำเนินการ แต่คนที่สั่งได้คือ กระทรวงดีอีเอส ที่จะได้รับคำสั่งจากศาล โดย พลโทหนุน ได้ประชาสัมพันธ์ด้วยว่า รัฐบาลมีช่องทางการจำหน่ายสลากผ่านระบบดิจิทัล คือ แอพพลิเคชัน เป๋าตัง อยู่แล้ว ซึ่งแอพฯ เป๋าตัง มีสลากมากพอที่จะจำหน่าย และจะมีการเพิ่มจำนวนสลากเข้าไปในระบบดิจิทัลเพิ่มจากเดิมด้วย และมองว่าช่องทางไหนที่จำหน่ายเกินราคาก็อย่าไปสนับสนุน  

 

 

ส่วนผู้ที่ซื้อสลากกับ "กองสลากพลัส" ไปแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีสิทธิถูกรางวัล แต่จะแจ้งเตือนว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวได้โฆษณาเรื่องการจ่ายเงินรางวัลโดยที่ไม่หักภาษี และการซื้อขายสลากได้โอนเงินผ่านบัญชีนิติบุคคล แต่เมื่อไปขึ้นเงินรางวัลได้ขึ้นเงินผ่านบัตรประชาชนของบุคคล ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบกับกรมสรรพากรอีกครั้งว่าหลีกเลี่ยงภาษีประจำปีหรือไม่

 

 

นอกจากนั้น ผู้ที่ถูกรางวัล ก็จะทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินที่ทางแพลตฟอร์มโอนให้ไปนั้น เป็นเงินมาจากที่ใด และถือว่าเป็นเงินได้ที่จะต้องนำมาคิดภาษีประจำปี ไม่ถือว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการถูก สลากกินแบ่งรัฐบาล จึงขอให้ผู้บริโภคตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกซื้อสลากทางออนไลน์

 

 

ทั้งนี้ พันโทหนุน ยังยืนยันว่า "กองสลากพลัส" กับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คือคนละหน่วยงานกัน และไม่ได้ให้สิทธิ์กองสลากพลัสนำสลากฯ ไปจำหน่าย 

 

บุกค้นกองสลากพลัส

 

 

ส่วนสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวการถูกรางวัลที่ 1 หรือ เข้าข่ายโฆษณาชักชวนให้ซื้อสลากฯ นั้น ผู้อำนวยการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า สื่อมวลชนแต่ละสำนักต้องระมัดระวังในกรณีดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ได้ทำหนังสือตักเตือนสื่อบางสำนักไปบางแล้ว  รวมถึงยังได้ทำหนังสือไปยัง กสทช.ด้วย

 

 

สำหรับการแจ้งความดำเนินคดี ทาง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ร้องทุกแพลตฟอร์มที่ขายสลากทางออนไลน์รวม 15 แพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดได้กว้านซื้อสลากจากผู้ที่ได้รับโควต้ากว่า 2 แสนราย ทั้งบุคคลและนิติบุคคลมาขายต่อ โดยเปิดเผยด้วยว่าซื้อมาในราคาที่สูงกว่า 80 บาท แต่นำมาขายในราคา 80 บาท ซึ่งในหลักธุรกิจแล้วไม่สามารถทำได้เพราะขาดทุน และทำให้ราคาในท้องตลาดต้องขายสูงกว่า 80 บาทไปด้วย 
 

 

ส่วน กรมสรรพากร ระบุด้วยว่า หลังจากนี้ก็จะตรวจสอบการเสียภาษีเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทมาอย่างต่อเนื่องมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยในวันนี้ก็จะขอตรวจสอบเอกสารการเสียภาษีเพิ่มเติม ทั้งบัญชีการเงินและเอกสาร เบื้องต้นยังพบว่า ระบบการเงินของบริษัทนี้ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากมีทั้งบัญชีการเงินของนิติบุคคล และบุคคล รวมทั้งเงินการขึ้นเงินรางวัลที่ตามข้อมูลได้ว่าการซื้อขายสลากเป็นเงินของนิติบุคคล แต่การขึ้นเงินรางวัลมาจากบุคคล ก็จะต้องประสานงานกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

 

บุกค้นกองสลากพลัส