ข่าว

ล้ำไปอีก มิจฉาชีพ "แฮกมือถือ" แอนดรอยด์ โดนหนัก สูญกว่าล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ล้ำไปอีก 2 เหยื่อร้อง มิจฉาชีพ "แฮกมือถือ" แอนดรอยด์ โอนเงินผ่าน แอปธนาคาร พบผู้เสียหาย นับ 10 ราย เสียหายกว่าล้านบาท

(15 ม.ค.2566) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้นำ นายบุรินทร์ บัวผัน และนายกิตติกร จันทร์แก้ว 2 ผู้เสียหาย เข้าร้องสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพ แฮกข้อมูลโทรศัพท์ ก่อนโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคาร มีผู้เสียหาย มากกว่า 10 ราย ความเสียหายมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท

 

นายเอกภพ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนเรื่อง ถูกแฮกมือถือ และมีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีอื่น ๆ ซึ่งจากที่ตนได้สอบถามผู้เสียหาย มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะพฤติการณ์ของมิจฉาชีพมีการพัฒนาขึ้น จากปกติก่อนหน้านี้ จะมีการส่งลิงค์ต่าง ๆ มาหลอกให้กด เพื่อดูดข้อมูล หรือเป็นช่องทางในการเข้าถึงโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชันธนาคาร

แต่ในผู้เสียหายกลุ่มนี้ ค่อนข้างระวังตัวมาก ไม่โหลดแอปฯแปลก ๆ ไม่ชาร์จมือถือ หรือใช้ WIFI สาธารณะ แต่จู่ ๆ มีข้อความจากธนาคารแจ้งเตือนว่า ได้มีการโอนเงินจากธนาคารของตัวเอง ไปยังธนาคารปลายทาง ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายเองไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ จึงเชื่อว่าตอนนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และน่าจะขยายวงกว้างออกไปอีก

ร้องเพจสายไหมต้องรอดถูกแฮกมือถือ

ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5-14 มกราคม 2566 โดยเงินของผู้เสียหายจะถูกโอนเข้าไปในหลายบัญชี แต่หลัก ๆ ที่ถูกโอนเข้าไป คือบัญชีของนายจักรกฤษ (สงวนนามสกุล) โดยยอดเงินผู้เสียหายมีตั้งแต่ยอดเล็ก ๆ ไปจนถึง 5 แสนบาท ซึ่งโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกแฮก จะเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ทั้งหมด

 

นอกจากนี้ ผู้เสียหายบางรายที่ใช้ไอโฟน และอาจจะมีเหล่ามิจฉาชีพพยายามแฮกมือถือ แต่ไอโฟนจะมีข้อความแจ้งเตือนมายังเครื่องว่า “ ระวัง!! ตรวจจับการใช้โปรแกรมควบคุมหน้าจอ ให้ทำการปิดเครื่อง และเปิดเครื่องอีกครั้ง เพื่อใช้งาน” ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หลายหน่วยงานต้องเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือกระทรวงการคลัง

ร้องเพจสายไหมต้องรอดถูกแฮกมือถือ

ด้าน นายกิตติกร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่าโทรศัพท์ของตัวเองมีลักษณะผิดปกติคือ หน้าจอดับ แต่โทรศัพท์สั่น ใช้การไม่ได้ไปประมาณ 1 ชม.กว่า ๆ หลังจากนั้นโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่แอปฯ ของธนาคาร กลับมีการแจ้งเตือนว่า แอปฯ ของธนาคารไม่ได้ถูกติดตั้งโดย playstore ให้ทำการลบแอปฯออก และติดตั้งใหม่

 

ซึ่งตอนนั้นเงินยังไม่ได้หายออกไปจากธนาคาร จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม ช่วงเวลา 10.00-12.30 น. ตนเอาโทรศัพท์ไปชาร์จ และนอนหลับไป จนกระทั่งประมาณบ่าย 3 ตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์ พบว่า เงินในแอปฯ ธนาคาร ได้หายออกไปจากบัญชีทั้งหมดจำนวน 92,709 บาท เข้าบัญชี นายจักรกฤษ

 

แฮกมือถือ สูบเงินหายจากบัญชี

 

ขณะที่ นายจักรกริช อินทรังษี น้องชายของ นายบุรินทร์ บัวผัน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา กำลังนั่งคุยกับพี่ชาย และได้ชาร์จมือถือทิ้งไว้ที่โต๊ะใกล้ ๆ กัน จู่ ๆ มีข้อความ และสลิปจากธนาคารแจ้งเข้ามาว่า มีการโอนเงินจากแอปฯธนาคารของตน โอนไปยังอีกธนาคาร ของนายจักรกฤษ จำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนและพี่ชายตกใจมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรม และ ยอดเงินที่ออกไปเป็นเงินจำนวนมาก และเป็นเงินที่ตนต้องใช้ในการทำงานต่อหลังจากนี้ด้วย

 

จากนั้น ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางปะอิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร จึงเข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ตอนนี้มีการรวบรวมผู้เสียหายได้มากว่า 10 ราย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะหากช้าอาจจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้

 

ทั้งนี้ วันที่ 17 มกราคม เวลา 13.30 น. นายเอกภพ จะนำผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อแจ้งความ ติดตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมไปถึงหาแนวทางให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ