DSI ชี้แจง เข้าตรวจค้น สถานที่พำนักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย

หลังจากเมื่อวานนี้(27ธ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แฉมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI จำนวน 3 นาย ร่วมกับตำรวจ191 จำนวน 10 นาย เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านสาธร ที่มีการแอบอ้างว่าสถานกงสุลใหญ่นาอูรู ประจำประเทศไทย มีชาวจีนเข้าออกพลุกพล่าน แต่ต่อมาได้ปล่อยตัวชาวจีน 11 คน แลกกับเงิน 20 ล้านบาท เพื่อไม่จับกุมดำเนินคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา 
 

ล่าสุด DSI ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า รองกงสุลใหญ่ปฏิบัติราชการแทนกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย มีหนังสือฉบับลงวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ช่วยเหลือและตรวจสอบ สถานกงสุลพบว่ากงสุลใหญ่ฯ ได้มีการเช่าบ้านพักส่วนตัวนอกพื้นที่ของที่ทำการกงสุล และมีการดำเนินการผิดกฎหลายประการ โดยให้คนเอเชีย น่าเชื่อว่าเป็นคนสัญชาติจีน เข้ามาใช้สถานที่ดังกล่าว นอกเหนือจากการเป็นที่พักอาศัยของกงสุลใหญ่และมีการเข้าออกที่พักตลอดทั้งวันจนผิดสังเกตรวมถึงรบกวนเพื่อนบ้าน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สถานทูตของประเทศอื่นๆที่พักอาศัยใกล้เคียงกัน และอาจเป็นเรื่องกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความมั่นคงระหว่างประเทศนูอูรูและประเทศไทย 
 

อธิบดีDSI ได้มีข้อสั่งการ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 มอบหมายกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค รับผิดชอบดำเนินการ และต่อมาได้มีหนังสือฉบับที่ 2 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 จากสถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย แจ้งข้อมูลและพฤติการณ์เพิ่มเติม พร้อมแนบภาพถ่ายของรถต้องสงสัยที่เค้าออกรวมทั้งมีรถที่ใช้ป้ายทะเบียน พื้นสีฟ้าตัวอักษรสีขาว ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนรถสำหรับเจ้าหน้าที่สถานทูต เข้าออกบ้านกงสุลใหญ่ดังกล่าว แต่ไม่ใช่รถของสถานกงสุลใหญ่ รวมทั้งข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงขอความร่วมมือกรมสอบสวนคดีพิเศษมาอีกครั้ง จนเป็นที่มาเข้าตรวจค้นในวันที่ 22 ธันวาคม ซึ่งได้สั่งการให้กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาครายงานข้อเท็จจริงในการร่วมปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมาให้ทราบโดยด่วน เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการตามกฎหมาย
                

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามคำร้องขอของสถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และจะแจ้งให้ทราบต่อไป