ข่าว

ได้เบาะแส "ศพปริศนา" ในแท็งก์น้ำ หลังสาวเมียนมา สงสัยเป็นญาติหายตัว 6 เดือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจได้เบาะแส "ศพปริศนา" ในแท็งก์น้ำ บนดาดฟ้าตึกแถวย่านรามคำแหง หลัง สาวเมียนมาโผล่แจ้งสงสัยเป็นญาติที่หายตัวไปนาน 6 เดือน ระบุจำชุดที่สวมได้ เผยญาติมีอาการทางประสาท รอผลดีเอ็นเอยืนยัน

20 ธ.ค.2565 ความคืบหน้ากรณีพบศพผู้เสียชีวิตอย่างปริศนา อยู่ในแท็งก์น้ำขนาด 1,250 ลิตร ซึ่งอยู่บนดาดฟ้า อาคารพาณิชย์ ในซอยรามคำแหง 1 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น

 

ล่าสุด พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้รับเหมามาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยืนยันว่า กลุ่มผู้รับเหมาชุดแรก ที่มาทำงานเมื่อ 6 เดือนก่อน ไม่ได้ทิ้งงาน แต่ทำงานเสร็จเร็ว โดยมีด้วยกัน 4 คน เป็นคนไทยและชาวไทยใหญ่ สามารถติดตามตัวได้ทั้งหมด คาดว่าจะเข้าให้การได้อย่างช้าที่สุดไม่เกินสัปดาห์หน้า ส่วนผลการชันสูตร เบื้องต้นทราบว่าศพไม่มีร่องรอยการแตกหัก หรือพบบาดแผลแต่อย่างใด

 

 

 

ศพปริศนาในแท็งก์น้ำ บนดาดฟ้าตึกแถวย่านรามคำแหง

 

 

ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ ตรวจสอบได้ค่อนข้างลำบาก เพราะเสียชีวิตมาเป็นเวลานานและศพถูกแช่อยู่ในน้ำจนเริ่มเน่าเปื่อย ต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ นำมาพิจารณาร่วมกับผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จึงจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนมากขึ้น

 

 

จนท.ผ่าแท็งก์น้ำเพื่อนำศพปริศนาออกมาตรวจสอบ

 

 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นางวุ่น อายุ 27 ปี ชาวเมียนมา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำ หลังสงสัยว่าศพที่พบในแทงค์น้ำ จะเป็นญาติของตัวเอง ที่หายตัวไป ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

 

 

 

ได้เบาะแส "ศพปริศนา" ในแท็งก์น้ำ หลังสาวเมียนมา สงสัยเป็นญาติหายตัว 6 เดือน

 

 

โดย นางวุ่น ให้การว่าที่เชื่อว่าศพปริศนาในแท็งก์น้ำ เป็นญาติของตัวเอง เพราะจดจำเสื้อผ้าได้ โดยญาติ มีชื่อว่า นางเงิน อายุ 30 ปี เป็นชาวเมียนมา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยเหมือนกับตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้นางเงิน จะทำงานเลี้ยงเป็ด ที่จังหวัดชลบุรี  และเคยก่อเหตุขโมยไข่เป็ดของนายจ้างไปกิน แล้วถูกนายจ้างจับได้ และขู่ว่าหากขโมยไข่อีกจะถูกไล่ออก และส่งกลับเมียนมา 

 

แต่เนื่องจากญาติของตนเอง  มีอาการทางประสาท มักมีอาการเหม่อลอย หลังถูกนายจ้างข่มขู่ ทำให้นางเงินเกิดความหวาดกลัว และมักไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามป่า

 

กระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาตนเองไปรับตัวมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 3 - 4 หลัง ก่อนจะหายตัวไปอีก ตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ เข้าใจว่าจะไปหลบซ่อนตัว เพราะกลัวถูกจับส่งกลับประเทศ จึงไม่ได้แจ้งความกับทางตำรวจไว้

 

ทั้งนี้ ตำรวจจะนัดหมายให้ นางวุ่น ไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ นำไปเปรียบเทียบกับศพเพื่อยืนยันว่า ใช่ญาติที่สูญหายไปหรือไม่

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ