ผบ.ตร.ยัน ไม่มี "มวยล้ม ต้มคนดู" "คดีนายทุนจีนสีเทา" โต้ ชูวิทย์ เข้าใจผิด

จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง มีการโพสข้อความ ลงโซเชียลมีเดียส่วนตัว โดยมีการระบุข้อความ ที่ตนเองออกมาเปิดเผยหลักฐานต่างๆ ในการแฉ "คดีนายทุนจีนสีเทา" ที่ทำธุรกิจ ผิดกฎหมายในประเทศไทย และมีคนมีอำนาจ อยู่เบื้องหลัง คอยอำนวยความสะดวก และ ช่วยเหลือมาเป็นเวลา รวมถึงแฉ ขบวนการ ตำรวจ ตม.สร้างวีซ่าเท็จ ช่วยให้คนจีน อยู่ในประเทศไทยได้ โดย ชูวิทย์ ตั้งคำถามถึง ​"บิ๊กเด่น" ผบ.ตร. ว่า อาจจะกลัวอิทธิพล "ตู้ห่าว" ชูวิทย์ยังคาใจ ตำรวจทำคดี "ตู้ห่าว" ตั้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไร้ข้อหา "ฟอกเงิน" 

ล่าสุดวันนี้ (11 ธันวาคม 2565) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้า "คดีนายทุนจีนสีเทา" ว่า นายชูวิทย์ อาจจะมีการเข้าใจผิด ในหลายประเด็น จนทำให้ไม่มั่นใจ ในการทำงานของตำรวจ ขึ้นมา และ กรณีที่ นายชูวิทย์ ได้ตั้งคำถาม ว่า ตนเอง เกรงกลัวอิทธิพล ของ นายตู้ห่าว หรือไม่ ยืนยันว่า ไม่กลัวอิทธิพลใด เพราะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ ให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตนเองเห็นว่า นายชูวิทย์ ไว้ใจ รองผบ.ตร.ทั้ง 2 ท่าน ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ หากต้องการ ให้ตนเองลงมาดู "คดีนายทุนจีนสีเทา"  ตนเองก็จะลงมา เพื่อให้เกิดความสบายใจ ซึ่งจริงๆ ตนเองก็ดูอยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้ออกข่าว ตนเองมั่นใจหลักฐาน ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องทั้งหมด เริ่มต้นจาก “คดีผับจินหลิง” ที่นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในการสืบสวนจับกุม เชิงลึก ต้องให้เครดิตท่าน โดยได้ใช้กำลัง ที่ไม่เกี่ยวกับท้องที่ เพื่อไม่ให้ข่าวรั่ว ส่วนที่ นายชูวิทย์ บอก  ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดนักท่องเที่ยวจีน เหลือ 6 คน ขอยืนยัน ว่า ไม่เป็นความจริง แต่ตรวจพบ 104 คน จากนั้น ส่งทั้งหมด ไปที่โรงพยาบาลธัญลักษณ์ เพื่อตรวจยืนยันผล เพราะตามกฎหมาย ต้องยืนยันผลทางโรงพยาบาล ซึ่งยืนยันผล 77 ราย รับสารภาพ 66 ราย ปฏิเสธ 11 ราย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า เห็นว่าคดีนี้เป็นที่น่าสนใจ และ เป็นคดีที่อาจจะมีความสำคัญเกี่ยวเนื่อง กับคดีต่างๆ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมี ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวน โดย ตนเองเป็นคนเซ็นคำสั่ง นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เป็นหัวหน้า กำกับดูแลงาน สืบสวนสอบสวนด้วย คุณชูวิทย์ ไปพูดแล้ว ทำให้คนอื่นเข้าใจคลาดเคลื่อน ตนเองจะกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ตัดปัญหา ความคลางแคลงใจ 

ส่วนที่ “นายชูวิทย์” ข้องใจ ว่า ทำไมไม่ดำเนินคดีฟอกเงิน กับ นายตู้ห่าว ต้องชี้แจงว่า คดียาเสพติด ข้อหาสมคบตาม พ.ร.บ. มาตรการ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.สามารถ ยึด และ อายัดทรัพย์สิน ได้ครอบคลุมอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมาย ยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่ง นายตู้ห่าว จะต้องมาแสดง ว่าได้ทรัพย์สิน มาได้อย่างไร ส่วน ปปง. ก็ไม่ได้ทิ้ง ก็จะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน ที่ถ่ายทอดไปยังบุคคล