"ทนายษิทรา" พาสาวกัมพูชาพบ 'บิ๊กโจ๊ก" ร้องเร่งคดีโดนสาดน้ำกรด ปมชู้สาว

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความพาผู้เสียหายสาวชาวกัมพูชา เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อร้องขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565 ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่"ตำรวจ" ท้องที่ไม่ดำเนินการจนผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ 

น.ส.ซันฟราวเวอร์ ผู้เสียหาย เล่าว่า  ตนถูกผู้หญิงรายหนึ่ง ล่อลวงให้ไปช่วยวาดรูป ที่ร้าน เมื่อไปถึง แต่กลับถูกผู้ชายเข้ามาล็อค มัดขา และพาไปลงมือทำร้ายร่างกาย ด้วยการราดน้ำกรดที่อวัยวะเพศ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนและครอบครัวที่อยู่กัมพูชา ถูกข่มขู่  ส่วนคนที่ทำร้ายค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นใคร เพราะมีอยู่คนเดียวที่เกลียดเธอมาก "ทั้งชีวิตไม่เคยทะเลาะหรือมีศัตรู แต่มีคนเดียวที่เกลียดมากๆ"

ขอยืนยันว่า ตนทำแค่งานไม่ได้ทำอย่างอื่น ที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนความสัมพันธ์ตนเองกับไมเคิล อดีตสามีของผู้ต้องสงสัย ได้รู้จักกันช่วงก่อนโควิด-19 ได้ร่วมกันทำสารคดีที่กัมพูชา และไม่ได้ติดต่อคุยอะไรกันจนมาไทย กระทั่งถูกทำร้ายข่มขู่จึงได้ติดต่อไมเคิล

ด้าน นายไมเคิล ซึ่งเดินทางมากับผู้เสียหาย ระบุ ผู้ก่อเหตุ หรือ ผู้ต้องสงสัย คือ อดีตภรรยา ซึ่งการข่มขู่เกิดขึ้นมาเป็นระยะ และสังหรณ์ใจว่า เหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันไม่แน่ใจว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ในเมืองไทยหรือไม่ แต่ผู้เสียหายยังถูกข่มขู่  

ผมขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เข้ามาช่วยเหลือ วันนี้ที่มาไม่ต้องการให้ใครรู้สึกไม่ดี แต่ตัวผู้เสียหายยังถูกข่มขู่ อยากให้เรื่องราวเป็นไปด้วยดี ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าตำรวจไทยจะให้ความเป็นธรรมและตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ แล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ

ด้าน "ทนายษิทรา"  กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นจิตรกร อดีต NGO ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เพิ่งมาไทยได้ไม่กี่วัน สาเหตุที่ถูกทำร้ายคาดว่าเกิดจากความเข้าใจผิดเรื่องชู้สาว อาจคิดว่า ผู้เสียหายไปยุ่งกับสามีจนโกรธแค้นและไปจ้างคนมาทำร้าย ทั้งที่ ผู้เสียหายเพิ่งจะเข้ามาไทยแค่ไม่กี่วัน และคนที่มาก็เข้ามาเพื่อทำร้าย จากนั้นก็ออกนอกประเทศไปเลย 

ส่วนคนที่สั่งการอาจเป็นไปได้ ทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งผู้เสียหายทราบอยู่แล้ว เหลือแค่ว่า พยาน หลักฐานจะไปถึงหรือไม่ จึงต้องการให้ รอง ผบ.ตร.เร่งรัดคดี เพราะที่ผ่านมา ตำรวจท้องที่ทำงานล่าช้า ทั้งที่เป็นคดีอุฉกรรจ์ พร้อมขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ที่่รับปากจะเร่งรัดคดี พร้อมสั่งการให้จัดกำลังตำรวจไปดูแลเนื่องจากผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัย

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ยืนยันว่า เรื่องนี้ เป็นคดีทำร้ายร่างกาย ที่โหดร้ายทารุณ แต่ไม่ได้ซับซ้อน จะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเตรียมเรียกผู้กำกับ สภ.บางละมุง มาให้ข้อมูลและเอาสำนวนสอบสวนมาดูว่าตรงไหน ยังไม่เรียบร้อย และจะเร่งรัดในการส่วนของการสอบสวนเพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุสัปดาห์หน้าหากหลบหนีไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียไม่หนักใจเชื่อว่า จะเอาตัวมาดำเนินคดีได้ 

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปประชุมที่ฟิลิปปินส์ ก็จะเอารายละเอียดไปพูดคุยด้วย หลังมีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุหนีไปที่ฟิลิปปินส์