แม่สาว 19 ท้อง 8 ด. "แห่โลงศพ " ร้อง ก.ยุติธรรม ติดใจหมอวินิจฉัยพลาดทำเสียชีวิต

8 ธ.ค. 2565   นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วย น.ส.สายม้าน (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตและครอบครัว แห่โลงศพที่บรรจุศพ น.ส. บีม อายุ 19 ปี ซึ่งตั้งครรภ์  8 เดือน เดินทางมาจาก ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม โดยมี ร.ต.ธนกฤต เลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มารับเรื่องร้องทุกข์

 

โดยทั้งมารดา และญาติของผู้เสียชีวิต ข้องใจการเสียชีวิตของ น.ส.บีม ที่อาจเกิดจากแพทย์ของคลินิกแห่งหนึ่ง ใน จ.สระแก้ว ผ่าก้อนชิ้นเนื้อจากช่องคลอด พร้อมคำวินิฉัยว่าเป็นฝี แต่หลังการผ่า กลับมีอาการเลือดไหลไม่หยุดและนำไปสู่การเสียชีวิตพร้อมกันทั้งน.ส.บีม ลูกในท้อง

 

 

 

 

 

 

โดย น.ส.สายม้าน มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่าน.ส.บีม  ลูกสาว ได้ฝากครรภ์กับแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว โดยมีกำหนดคลอดในวันที่ 12 ธ.ค. ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา  แพทย์ทำการกรีดก้อนแข็ง ที่บริเวณอวัยวะเพศ  หลังแพทย์สันนิษฐานว่าอาจเป็นฝี ต้องกรีดเพื่อระบายหนองออก

 

แต่หลังจากกรีดออกแล้ว กลับพบว่าไม่ใช่ฝีและไม่มีหนอง อีกทั้ง เมื่อลุกเดินก็ปรากฎมีเลือดไหลออกมาเป็นลิ่ม ๆ ไม่หยุด จากนั้น จึงมีการย้ายตัวลูกสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายแห่ง 

 

กระทั่ง น.ส.บีม ถูกส่งตัวไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต แพทย์ได้ทำการผ่าเอาทารกออกจากครรภ์ เนื่องจากทารกในครรภ์ได้เสียชีวิตแล้ว และลูกสาวตนก็รักษาตามอาการเรื่อยมา ต่อมา วันที่ 14 -15 พ.ย. แพทย์ได้นำลูกสาวตนเข้าตรวจ ทำการผ่าตัด จากนั้นมีอาการแย่ลง ในวันที่ 18 พ.ย. ลูกสาวได้เข้าห้อง ICU อีกครั้ง และแพทย์แจ้งว่าลูกสาวเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4 ระยะลุกลามแล้ว จน ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา แพทย์ได้แจ้งว่าลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว 

 

น.ส.สายม้าน กล่าวว่า ถึงสิ่งที่ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ นั้นขอให้โรงพยาบาลที่รักษาในอรัญประเทศ ส่งเอกสารชี้แจงการรักษา เนื่องจากได้ร้องขอไปแล้ว แต่ได้แจ้งให้รอ 2 อาทิตย์ แต่ขณะนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้รับเอกสารการรักษา เพราะยังติดใจเรื่องการรักษาจากคุณหมอว่าทำไมวันที่ 6 - 7 พ.ย. ไม่เข้ามาดูอาการลูกสาวเลย จนทำให้อาการแย่ลง

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ยังต้องการให้หมอที่คลินิกออกมาชี้แจง เรื่องการผ่าตัดโดยพลการทำให้บุตรสาวตนเลือดไหลไม่หยุด ขอให้มีคำขอโทษ หรือคำพูดของจรรยาบรรณแพทย์ หากเป็นไปได้จะเรียกร้องให้คุณหมอช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวบ้าง

 

 

ด้านว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เลขาฯ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้รับทราบความทุกข์ร้อนของแม่ผู้เสียชีวิตแล้ว แต่จากนี้ขอให้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะได้นำเอกสารการร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาขอผ่าพิสูจน์ศพกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของน้องบีม

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ทราบว่าผลการพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ยังไม่ออก ทั้งนี้ ตนได้แจ้งเรื่องราวนี้ไปยัง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอให้รับเรื่องและเก็บศพไว้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี ระหว่างการรอเอกสารผลการผ่าพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

 

ทั้งนี้ ตนจะมอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว ประสานไปยังพนักงานสอบสวน และยังได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบกระบวนการรักษาตรงนี้ และให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมตรวจสอบคลินิกดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบจรรยาบรรณแพทย์ของคลินิกว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนการรักษาหรือไม่ และหากแพทย์มีการรักษาผิดพลาดจริง ตนจะให้ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ดูแลเรื่องการเยียวยาต่อไป

 

ขณะที่นางสายม้าน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณกระทรวงยุติธรรมและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่จะช่วยดูแลประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ตนและครอบครัว โดยตั้งแต่สูญเสียบุตรสาวพร้อมกับหลานนั้น ตนรู้สึกเเน่นในอก รู้สึกแย่ เสียใจ เพราะมีลูกสาวคนเดียว แลเป็นเสาหลักครอบครัวด้วย