ตำรวจ สภ.แม่โจ้ พบศพชาว"ญี่ปุ่น" เสียชีวิตบนเตียงนอน คาดใช้มีดทำครัว ปลิดชีพตัวเอง หรือ "ฮาราคีรี" เร่งสอบพยานรอบบ้าน เก็บหลักฐาน หาปมเสียชีวิต
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลสันทราย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลหนองจ๊อม เข้าตรวจสอบเหตุ ชาว"ญี่ปุ่น"ใช้มีดแทงตัวเองเสียชีวิต หรือ "ฮาราคีรี" เหตุเกิดที่บ้านพักแห่งงนึ่ง ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักริมสระน้ำ ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิตเพศชาย 1 รายทราบชื่อคือ นายโซระ อายุ 48 ปี ชาวญี่ปุ่น สภาพศพนอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกอาวุธมีดหลายจุด โดยทางแพทย์เวรได้เข้าไปตรวจสอบ พบบาดแผลบริเวณหน้าท้องขนาดใหญ่ 1 แผล ลำคอ 2 แผล และข้อมือทั้งสองข้างข้างละอีก 2 แผล นอกจากนี้ยังพบมีดทำครัวขนาดความยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ตกอยู่บนเตียงของผู้ตายอีกด้วย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ พบว่ามีรอยเลือดหยดเป็นทางยาว จากบริเวณห้องครัวมายังห้องที่ผู้ตายเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ถึงได้บันทึกข้อมูล และกันพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้
จากการสอบถามเพื่อนชายชาวญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งเป็นคนที่มาเช่าบ้านหลังนี้ เปิดเผยว่า ผู้ตายได้เดินทางมาจากญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ในไทยได้ประมาณ 40 วัน พบผู้ตายมีชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อ 23.00 น.ของวันที่ 27 พ.ย.2565 ผู้ตายมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับอาการทางจิตเวช และได้รักษาตัวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และเมื่อมาประเทศไทยก็ไม่มียารักษาและพยายามหาซื้อยารักษาอาการทางประสาทแต่ก็หาไม่ได้ คาดว่าสาเหตุที่ก่อเหตุฆ่าตัวตายในครั้งนี้
ขณะที่เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่หลังติดกัน ได้เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ชาวญี่ปุ่นมีพักอยู่ภายในบ้าน ได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือให้แจ้งโรงพยาบาล เนื่องจากมีคนเลือดไหลออกมา แล้วนอนหมดสติอยู่บนที่นอน ตอนเย็นโทรแจ้งโรงพยาบาลโรงพยาบาลก็ได้ให้ตนเข้าไปดู แต่ตนไม่กล้าจะให้น้องชายเข้าไปดู ปรากฏว่าพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่ง จมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กั้นที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อน อยู่ในระหว่างการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมกับ เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวแม่บ้าน คนข้างบ้าน และบุคคลในบ้าน เพื่อคลี่คลายและสรุปสาเหตุการตายในครั้งนี้อีกครั้ง ส่วนศพชาวญี่ปุ่นได้ส่งไปให้แพทย์ภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตร เพื่อเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะนำมาสรุปหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง