ผบ.ทร. ย้ำ "เรือดำน้ำ" ยังมีความจำเป็น ในการป้องปราม และ "สนับสนุนรัฐบาล" | คมชัดลึก

ดร่ามาต่อเนื่องยาวนาน กับประเด็นงบประมาณที่กองทัพเรือ ใช้สำหรับซื้อ "เรือดำน้ำ" ซึ่งประชาชนโซเชียล ส่วนใหญ่มักมีความเห็นว่า ประเทศไทย ยังไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องใช้งาน แม้ทางหน่วยงานหลัก จะออกมาแถลงถึงนโยบาย และความจำเป็นหลายครั้ง 

ล่าสุดวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2565) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เปิดเผยว่า กองทัพเรือ ยังมีความต้องการ "เรือดำน้ำ" เพราะจำเป็นต้องมี เพื่อเสริมกำลังของ กองทัพเรือเพียงพอ ในการป้องปราม หรือ "สนับสนุนรัฐบาล"  หากมีเหตุการณ์ หรือ สถานการณ์วิกฤต ซึ่งสถานการณ์โดยรอบในภูมิภาค ยังมีความขัดแย้ง

ส่วนความคืบหน้า การแก้ปัญหาเครื่องยนต์ ที่จะใส่ใน "เรือดำน้ำ" ของไทย นั้น กองทัพเรือ ได้ตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ "เรือดำน้ำ" โดยมีเสนาธิการทหารเรือเป็นประธาน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอน การพิจารณาเครื่องยนต์ ที่ทาง csoc นำเสนอขึ้นมา เป็นเครื่องยนต์ chd 620 ที่จีนผลิตเอง โดยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม ทางคณะกรรมการ จะเชิญผู้แทน csoc , ผู้ช่วยทูตทหารเรือจีน ประจำประเทศไทย มาเจรจา และ ประชุมร่วมกัน ระหว่างกองทัพเรือกับตัวแทน csoc จากจีน 

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งคณะทำงานพิจารณา ด้านเทคนิค "เรือดำน้ำ" ขึ้นมา เพื่อพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคตาม ที่กองทัพเรือต้องการ โดยมีประเด็นดังนี้

1.คุณลักษณะสำคัญของเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของ "เรือดำน้ำ"

2.ความปลอดภัยของเครื่องยนต์ ที่นำเสนอให้กองทัพเรือ

3.ขีดความสามารถของเครื่องยนต์ ที่จีนเสนอติดตั้ง ต้องไม่ด้อยกว่าเครื่องยนต์ mtu 396 ของเยอรมัน ที่เสนอไว้แต่แรก

4.การสนับสนุนด้านการรับประกัน การซ่อมบำรุง และ อะไหล่ของเครื่องยนต์ดังกล่าว ต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งฝ่ายจีน ต้องนำข้อพิจารณานี้ มานำเสนอให้กองทัพเรือ ในการประชุม

นอกจากนี้ยังขอให้ ส่งผู้แทนด้านเทคนิค ของกองทัพเรือ ไปดูการทดสอบเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของจีน ที่จะเอามาติดตั้ง ให้ "เรือดำน้ำ" ไทย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า เครื่องยนต์มีขีดความสามารถพอ ที่จะทดแทน mtu 396 ได้หรือไม่

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวอีกว่า ประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศเดียว ที่ต่อเรือดำน้ำจากจีน โดยกองทัพเรือปากีสถาน ก็สั่งต่อเรือดำน้ำรุ่นเดียวกับกองทัพเรือไทย ซึ่งทราบว่า จีนมีการทดสอบเครื่องยนต์เสร็จ ในระยะที่ 1 แล้ว และมีข้อมูลเพียงพอ ที่จะนำเสนอให้ ทั้ง ทร.ปากีสถาน และ ทร.ไทย

ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า เครื่องยนต์นี้ สามารถทดแทนได้จริงหรือไม่ กองทัพเรือ พยายามติดตามประสานงาน ทั้ง ทร.ปากีสถาน และ ทางบริษัทด้วย โดยกองทัพเรือ จะกำหนดให้ กองทัพเรือจีน ต้องเป็นผู้รับประกันเครื่องยนต์ดังกล่าวจากบริษัท ว่ามีขีดความสามารถเพียงพอที่จะใช้งาน และติดตั้งให้กับเรือดำน้ำของไทย ซึ่งเป็นข้อรับประกันที่สำคัญ