รวบ แก๊งโม่งลิง อ้วนผอม 22 คดี "ตระเวนลักทรัพย์" เจาะตู้เซฟ เสียหาย 50 ล้านบาท

จากกรณีที่ "ตำรวจ" ได้รับแจ้งเหตุ แก๊งคนร้าย จำนวน 3-4 คน ร่วมกันก่อเหตุ "ตระเวนลักทรัพย์" เจาะตู้เซฟ โดยคนร้ายแต่งกายสวมหมวกโม่งลิง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงายาว ใส่ถุงมือยาว   สวมรองเท้าสตั๊ดดอยสีดำ สะพายเป้สีดำ มีแชลงเหล็กยาว ในพื้นที่ของ ภ.1, ภ.5 , ภ.7 , และพื้นที่ ภ.9 รวม 22 คดี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท ในห้วงระหว่างปี พ.ศ.2559 - พ.ศ.2565 

ล่าสุดวันนี้ (7 พฤศจิกายน 2565) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวจับกุม 4 คนร้ายที่ก่อเหตุในคดี ได้แก่ 

1. นายวสันต์ อายุ 39 ปี 

2. นายสมพร  อายุ 44 ปี

3. นายเกษม  อายุ 49 ปี

4. นายเรืองศักดิ์  อายุ 41 ปี

โดย เจ้าหน้าที่ "ตำรวจ" สามารถ ตรวจยึดทรัพย์สิน ที่ถูก "ตระเวนลักทรัพย์" เอาไปในคดีของหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง คือ ประเภทนาฬิกา หรู จำนวน 8 เรือน และน้ำหอม จำนวน 3 ขวด และ สามารถตรวจติดตาม ขยายผลสืบทรัพย์ ของ คดีร้านสำเพ็ง หาดใหญ่ เป็น เครื่องประดับ จำนวน 5 ชิ้น รวมมูลค่าทรัพย์สิน ที่สามารถติดตาม ส่งคืนให้กับผู้เสียหาย มูลค่าประมาณ 2 ล้านเศษ และ จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามทรัพย์สินที่ยังไม่ได้คืนมาอย่างเร่งด่วน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มคนร้าย "ตระเวนลักทรัพย์" ดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่อุกอาจ ก่อเหตุ "ตระเวนลักทรัพย์" อย่างต่อเนื่อง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และประสานข้อมูลและการปฏิบัติจากหลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย ตามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 406/2565 ลงวันที่ 8 ก.ย.65 

คดี "ตระเวนลักทรัพย์" นี้ เป็นอีกคดี ที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และสื่อมวลชน เนื่องจากมีการก่อเหตุ "ตระเวนลักทรัพย์" ต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง ตำรวจนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และ ภาพจากกล้องวงจรปิด นำมาวิเคราะห์ข้อมูล จนสามารถระบุ แผนประทุษกรรม ที่มีลักษณะคล้ายกัน และนำมาสู่การระบุตัว และจับกุมผู้ต้องหาได้ และยังได้ทำการตรวจสอบ เส้นทางทางการเงิน ของกลุ่มคนร้าย เพื่อประกอบ เป็นหลักฐานเอาผิด และลงโทษคนร้ายให้ถึงที่สุด 

"ตำรวจ" แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม,

ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”

พร้อมตรวจยึดสิ่งของที่คนร้าย "ตระเวนลักทรัพย์" ใช้ในการกระทำผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ รถยนต์ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ