ผบ.ตร.เล็งเรียกคืน อาวุธปืน จาก “ตำรวจ” และ ข้าราชการ ที่พฤติกรรมไม่ดี

วันนี้ (10 ตุลาคม 2565) เวลาประมาณ 11.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับมอบเงิน จาก สุชัย  พรชัยศักดิ์อุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท GPP INTERNATIONAL CO.TH / นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ จำนวน 2,000,000 บาท , นายภาณุพงศ์ ปรีชากาศ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 500,000 บาท และจาก นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 41 นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.  , พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ รอง จตช. และ "ตำรวจ" คณะ นรต.41 มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 300,000 บาท รวมยอดเงินทั้งสิ้น 2,800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย และที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ "คนร้ายกราดยิง" ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู  

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ถึงผลการประชุม กับปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีการหารือ แนวทางในการตรวจสอบ ควบคุมผู้ที่มีอาวุธปืนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรการหลักที่กำลังหารือ คือการเรียกคืนอาวุธปืน จากเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็น "ตำรวจ" ทหาร หรือข้าราชการ ที่มีอาวุธปืนของ ราชการไว้ในความครอบครอง  หรือเคยได้ใบรับอนุญาตให้มีอาวุธปืน  แต่กลับพบว่า มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือถูกร้องเรียนเรื่องอาวุธปืน  หรือกระทั่งบุคคลที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการครอบครองอาวุธปืน ก็จะต้องเรียกคืนทั้งหมด  เพื่อเป็นการตัดตอนไม่ให้นำอาวุธปืน ที่มีอยู่กับตัว ไปก่อเหตุซ้ำรอยเหตุการณ์ "คนร้ายกราดยิง" หนองบัวลำภู  

ต่อไปนี้การขอใบอนุญาติมีอาวุธปืน จะต้องมีเอกสารรับรอง การตรวจสุขภาพจิต จากแพทย์ มาประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาต และมีการตรวจติดตามในระยาวอย่างต่อเนื่อง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดเผยอีกว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ  เจ้าหน้าที่มหาดไทย เพื่อยกระดับการควบคุมป้องกันอาวุธปืนอย่างเป็นระะบบ และการปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้