เสี่ยหนู ปี๊ดแตก หลัง สื่อนอก อ้าง จนท. อนุญาตให้เข้าพื้นที่ "คนร้ายกราดยิง"

จากกรณีดราม่าในโลกโซเชียล ผู้สื่อข่าวหญิงรายหนึ่ง พร้อมช่างภาพชาย ของสำนักข่าว CNN เข้าไปรายงานข่าว เหตุ “คนร้ายกราดยิง” ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 38 ราย ที่จังหวัดหนองบัวลำภู และได้ปีนรั้วออกมา ซึ่งมีภาพกระจายและถูกแชร์อย่างกว้างขวาง จนถูกนักข่าวทั้ง 2 ราย ถูกจับกุมเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (9 ตุลาคม 2565) ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  ที่เดินทางเข้าสอบปากคำ ได้เปิดเผยความคืบหน้า

เบื้องต้นแล้ว สื่อคนดังกล่าว ยืนยันว่า ได้เข้าไปในศูนย์เด็กเล็กในขณะที่ประตูเปิดอยู่ และไม่มีเชือกกั้นที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังมีประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสม. อยู่ด้านในเกือบ 10 คน และสองนักข่าวให้การอีกว่า ได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่แล้ว ว่าสามารถเข้าไปด้านในได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าให้เข้ามาได้

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ16.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ สื่อต่างประเทศ ให้การกับตำรวจ ว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้เข้าไปทำข่าวให้พื้นที่ “คนร้ายกราดยิง” ตรงนี้ยืนยันว่า เป็นเพียงข้ออ้าง ไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนไหน มีหน้าที่อนุญาตทั้งนั้น และบริเวณนั้นไม่ใช่ ที่ทำงานของสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่โรงพยาบาล และไม่ใช่ รพ.สต.

นายอนุทิน  ระบุว่า ตนเองมองว่า ช่วงเกิดเหตุดราม่า อาจจะไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย แต่เขาคงมั่ว เห็นใครก็อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่การปีนออกมาจากที่เกิดเหตุ เป็นการกระทำที่ชัดเจน หากได้รับอนุญาต ก็คงเดินเข้าไปปกติ แต่พอเกิดเรื่องก็หาคนโบ้ย และคิดว่าคงไม่มีใครพิสูจน์ ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมองอีกว่า มาตรฐานการทำงานของนักข่าวต่างประเทศ น่าจะมีจริยธรรมในเรื่องนี้  ไหนบอกว่า จะต้องไม่พยายามกล่าวถึงความรุนเเรง ภาพเเละวิธีการที่ไม่เหมาะสม