ข่าว

เตรียม "ผลักดันออกนอกประเทศ" สื่อต่างชาติ ปีนรั้วพื้นที่ "คนร้ายกราดยิง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เตรียม "ผลักดันออกนอกประเทศ" สื่อต่างชาติ ปีนรั้วพื้นที่ "คนร้ายกราดยิง" หนองบัวลำภู ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง

จากกรณีดราม่าในโลกโซเชียล หลังสำนักข่าว CNN ออกมาชี้แจง กรณีที่มี ผู้สื่อข่าวหญิงรายหนึ่ง พร้อมช่างภาพชาย เข้าไปรายงานข่าวเหตุ “คนร้ายกราดยิง” ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 38 ราย ต่อมาตำรวจมีการจับกุมตัวนักข่าวทั้ง 2 ราย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ตุลาคม 2565)

 

ล่าสุด เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางเข้าสอบปากคำ MS.ANNA อายุ 47 ปี สัญชาติออสเตรเลีย และ MR.DANIEL อายุ 34  ปี สัญชาติ บริติช หลังถูกจับกุมภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี และคุมตัวมายัง กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.หนองบัวลำภู

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการกำชับ ให้ตรวจสอบอย่างละเอียดและรัดกุม ซึ่งเมื่อคืนพอทราบเหตุ ได้ให้ชุดสืบสวนทำการตรวจสอบ ทราบว่าทั้ง 2 คน เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 โดยเดินทางจาก ฮ่องกง มายังประเทศไทย เพื่อทำข่าว “คนร้ายกราดยิง” โดยใช้วีซ่า ผผ.30 ประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว

 

โดยพักอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดอุดร ไม่ได้หนีไปไหน เจ้าหน้าที่พบตัวช่วง 8 โมงเช้า โดยทั้ง 2 ตั้งใจจะกลับไปรายงานข่าวในพื้นที่ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากตรวจสอบ พบว่าการเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นการใช้วีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งหลักการคือต้องมาเที่ยว ไม่ใช่เข้ามาทำงาน จึงตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว และได้ทำการเผิกถอนวีซ่าเป็นที่เรียบร้อย

 

สอบปากคำผู้ต้องหา

 

เบื้องต้นเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มีอัตราโทษปรับ 5,000-10,000  หลังจากนี้จะ สอบปากคำให้ละเอียด และให้ได้ความจริงก่อน ว่าผู้ต้องหาทำผิด ในเรื่องบุกรุกหรือไม่ ถ้าเค้าไม่ผิดกฎหมายไทยหรือผิดอย่างอื่น สามารถปรับและ "ผลักดันออกนอกประเทศ" แต่ถ้าผิดกฏหมายไทย ต้องดำเนินคดี ตามกฎหมายไทย และ รับโทษตามกฏหมายไทย ถึงจะ "ผลักดันออกนอกประเทศ" ได้

 

ส่วนที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ “คนร้ายกราดยิง” นั้น ต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า เข้าไปโดยเจตนาหรือไม่ เบื้องต้นให้การว่า ขณะนั้นยังไม่ได้กั้นเส้น มีชาวบ้านอยู่ ก็ไปดู เหมือนที่คนอื่นเข้าไป พอออกมามีการกั้นเส้นแล้ว จึงต้องปีนออกมา การที่เข้าไป มีเจ้าหน้าที่ อสม.หรือ พยายาล เป็นคนบอกให้เข้าไปได้ เนื่องจากได้ถามแล้ว ว่าสามารถเข้าไปได้มั้ย ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อ เจ้าหน้าที่แล้ว และได้เชิญมาให้ปากคำ ส่วนกล้องวงจร มีการถอดออกไปตั้งแต่เกิดเหตุ เพราะเอาไปตรวจสอบ หลายคนตั้งคำถาม ว่าทำไมเข้าไปได้ เพราะญาติ แม้แต่จะเข้าไปยังไม่ได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ