ย้อน อดีตตำรวจ ก่อเหตุเศร้าสลด ในศูนย์เด็กเล็ก เสียชีวิตกว่า 30 บาดเจ็บอีก 12

6 ตุลาคม2565 เหตุสะเทือนขวัญและโศกนาฏกรรม  

จากเหตุสะเทือนขวัญ ใช้อาวุธปืนและมีดก่อเหตุในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของ อบต.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งหมด กว่า 30 ราย บาดเจ็บ อีก 12 ราย และทราบชื่อภายหลังคือ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจในยศ ผบ.หมู่(ป.) สภ.นาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู  และได้ถูกไล่ออกจากราชการเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2562 หลังพบว่านำยาบ้าของกลางมาสูบ และมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

 

เริ่มก่อเหตุช่วงเที่ยงพักกลางวันและเด็กๆกำลังพักผ่อน  

-เวลาประมาณ 12.10 น.คนร้ายใช้ก่อเหตุกราดยิงที่ "ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก" ในเขตอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู 
-หลังก่อเหตุคนร้ายใช้ รถกระบะ วีโก้4 ประตู สีขาว ทะเบียน กทม. หลบหนี ระหว่างทางได้ขับรถชนและทำร้ายชาวบ้าน 
-เวลาประมาณ 14.00 น. เพจเฟซบุ๊กสภ.เมืองหนองบัวลำภู ประกาศติดตามตัว นายปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุ 
-เวลาประมาณ 14.29 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วนลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.

-เวลาประมาณ 14.41 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ยืนยัน คนร้ายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ อ.นาวัง ห่างจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้สกัด และอยู่ระหว่างการปิดล้อมและเจรจา

-ส.ต.อ.ปัญญา หลบหนีเข้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อม สุดท้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุ ยิงภรรยาและเด็ก ก่อนยิงตัวตาย 

วิเคราะห์ประเด็นสาเหตุการก่อเหตุ

ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ  เข้ารับราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2555  ใน ตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.ยานนาวา ก่อนย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2562  ซึ่งทาง ส.ต.อ.ปัญญา ได้เคยยอมรับกับ พ.ต.อ.สุวัฒชัย มะลิทอง ผกก.สภ.นาวัง ผู้บังคับบัญชาล่าสุด ว่า พัวพันและเสพสารเสพติดมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว และรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอีกเพราะต้องทำหน้าที่เป็นข้าราชการตำรวจที่ดี  

และในช่วงที่ปฎิบัติหน้าที่ ส.ต.อ.ปัญญา มักจะมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับแฟนสาวบ่อยครั้งจนไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และเป็นที่มาของการถูกจับตามองเรื่อการเข้าไปพัวพันยาเสพติด จนกระทั่ง ส.ต.อ.ปัญญา ได้หันไปคบกับแฟนใหม่ และมีพฤติกรรมมั่วสุมดื่มสุราส่งเสียงดังกับข้าราชการตำรวจด้วยกัน จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าจับกุม ส.ต.อ.ปัญญา และเป็นที่มาของการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าเสพยาเสพติด สุดท้ายต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องถูกออกจากข้าราชการด้วยข้อหายาบ้า 1 เม็ด อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในวันที่ 7 ตุลาคมก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ส.ต.อ.ปัญญา ต้องไปขึ้นศาลในคดีนี้ด้วย

 

 

เครียดปมหนี้สิน 

ในช่วงระหว่างที่ ส.ต.อ.ปัญญา หลบหนีมาถึงบริเวณปากทางเข้าบ้านพัก ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนก่อเหตุกับผู้ที่อยู่แวดล้อมจนเสียชีวิตถึง 7 ราย และยังเป็นญาติในครอบครัวของตนเองอีก 3 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งจากการขับรถชนเพื่อหลบหนี ในขณะที่ญาติของ ส.ต.อ.ปัญญา รายหนึ่งได้เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธปืนเข้ามาความช่วยเหลือจึงรู้ถึงเหตุการณ์ที่ ส.ต.อ.ปัญญา ก่อขึ้น และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดจาก ส.ต.อ.ปัญญา มีอาการเครียดที่ถูก กดดันจนถึงต้องถูกไล่ออกจากตำรวจ
 

สรุปรายงานตัวเลขของจังหวัดหนองบัวลำภู 

ผู้เสียชีวิต รวม 36 ราย 
-ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวม 24 ราย
เด็กชาย 19 
เด็กหญฺิง 13 
ผู้ใหญ่ผู้หญฺิง 2

-ที่ทำการ อบต.อุทัยสวรรค์  รวม 2 ราย 
เด็กชาย 1 
ผู้ใหญ่ชาย 1 

-บ้านท่าอุทัยบ้านผู้ก่อเหตุ รวม 5 ราย 
เด็กชาย 1 
ผู้ใหญ่ชาย 2 (รวมผู้ก่อเหตุ)
ผู้ใหญ่หญิง 2 

-กลางบ้านท่าอุทัย 1ราย

-บ้านหนองกรุงศรี 1 

-เสียชีวิตที่ รพ. รวม 3
ผู้ใหญ่ชาย  2 
ผู้ใหญ่หญิง 1 

 

ขอรับบริจาคเลือดช่วยเหลือผู้เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ รวม 12 ราย และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือรับบริจาคเลือดจำนวนมาก สามารถบริจาคได้ที่ห้องบริจาคเลือด ชั้น 2 อาคารวินิจฉัย โรงพยาบาลหนองบัวลำภู โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จึงสั่งการ ให้ตำรวจหนองบัวลำภู และจังหวัดใกล้เคียงบริจาคเลือดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

 

 

ขอร้อง "หยุดแชร์ภาพและคลิป 

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนถึงผู้ใช้สังคมออนไลน์ หยุดแชร์ภาพและคลิปวีโอ  เนื่องจาก กระทบถึงความรู้สึกของครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ประชาชนเกิดความโศกเศร้า ความกลัว และความวิตกกังวลภายหลังได้รับข่าวสาร และที่สำคัญภาพที่มีขึ้นเป็นภาพที่มีความรุนแรง ไม่มีประโยชน์ใดๆต่อสังคมโดยรวม พร้อมแนะผู้ปกครองดูแลและให้คำแนะนำบุตรหลานและเยาวชนอย่าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และขอให้ประเมินสภาพจิตใจของตนเองและคนรอบข้างหากได้ชมภาพความรุนแรงก่อนหน้านี้  

 

โปรดเกล้าฯรับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

และในช่วงค่ำที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี, พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข, พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง และนายอําพน กิตติอําพน องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปเยี่ยมครอบครัว ผู้บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วย

 

เงินชดเชยทางคดีอาญา

ขณะที่ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เปิดเผยว่า จะมีการมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาที่เกิดขึ้นตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยแบ่งเป็นกรณี "ผู้เสียชีวิต" จะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 110,000 บาท  แบ่งเป็น ค่าเสียชีวิตไม่เกิน 50,000 บาท ค่าทำศพไม่เกิน 20,000 บาท และค่าขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูไม่เกิน 40,000 บาท  

ส่วนกรณี "ผู้ได้รับบาดเจ็บ" จะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 110,000 บาทเช่นเดียวกัน แบ่งเป็น ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายไม่เกิน 20,000 บาท ค่าหยุดประกอบอาชีพ ให้ใช้ค่าแรงขั้นต่ำ คูณกับจำนวนวันหยุด ไม่เกินระยะเวลา 1 ปี และค่าเสียหายอื่นๆอีก ไม่เกิน 50,000 บาท

 

หน่วยราชการทั้วประเทศลดธงครึ่งเสา 1 วันกรณีพิเศษ 7 ตุลาคมแสดงความอาลัย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้ ขอให้ทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ลดธงครึ่งเสา 1 วันเป็นกรณีพิเศษ เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูด้วย

ติดตามคมชัดลึกได้ที่

Line:https://lin.ee/qw9UHd2-

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w