ข่าว

จับ "หมอกระเป๋า" คาเตียง "ฉีดโบท็อกซ์" เบื้องต้นพบยาไม่ขึ้นทะเบียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสอบสวนกลางรวบ "หมอกระเป๋า" คาเตียง " ฉีดโบท็อกซ์" กลางกรุง ตรวจค้นเบื้องต้นพบยาไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยา

สืบเนื่องจากกองกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับแจ้งจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “WA Janya” มีการโพสข้อความ ลักษณะให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ นอกสถานที่ โดยบุคคลที่ฉีดให้นั้น ไม่ใช่แพทย์ แต่โฆษณาว่า ฉีดกับพยาบาล ซึ่งสามารถเช็คใบประกอบวิชาชีพได้ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี 

 

ล่าสุดวันนี้ (21 กันยายน 2565 ) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัยรอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.ธเรศ  กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมน.ส. กัลยา อายุ 37 ปี และ น.ส.จรรยมณฑน์ อายุ 32 ปี ขณะเตรียมให้บริการลูกค้า โดยจับกุมในห้องพักของคอนโดแห่งหนึ่ง ในซอยวิภาวดี 20 แขวงจอมพล เขตจตุจัตร กรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่แถลงข่าว

 

เบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบ พบว่า มีการให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ให้กลุ่มผู้รับบริการจริง และพบยาแผนปัจจุบัน ยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา รวมถึงอุปกรณ์การให้บริการ และเวชภัณฑ์ในลักษณะเตรียมพร้อมสำหรับผู้มารับบริการ จำนวน 21 รายการ 

 

ภาพขณะจับกุม

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ นางสาว กัลยา ได้นำใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ โดยสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดองกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดำเนินคดี

 

พลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์และขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงามเนื่องจากการเสริมความงานเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม

1. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตและดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 มาตรา 28 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ภาพอุปกรณ์ที่เตรียมฉีดให้ลูกค้า

 

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับอันตรายจากบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลเอกชน หรือมีเบาะแสการกระทำผิดของหมอเถื่อน หมอกระเป๋า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426 เพื่อตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ