ข่าว

"สองสาวแสบ" ลวงเซียนพระรักษาโรคร้าย ก่อนยึดพระเครื่องมูลค่ากว่า 100 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ กก.ดส.ตามจับ "สองสาวแสบ" ล่อลวง"เซียนพระชื่อดัง"รักษาโรคร้าย ก่อนยึดพระเครื่องมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.65 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.กก.ดส.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.กก.ดส.และ พ.ต.ต.จักรี นารีผล สว.กก.ดส.บช.น.ทำการจับกุม น.ส.เอ และ น.ส.บี (นามสมมุติ) หลังก่อเหตุล่อลวงผู้เสียหายเป็นชาย อายุ 81 ปี "เซียนพระเครื่อง"ชื่อดังของเมืองไทย อ้างว่าจะพาไปทำการรักษาโรคพาร์กินสัน ก่อนยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์หรู และพระเครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท 

\"สองสาวแสบ\" ลวงเซียนพระรักษาโรคร้าย ก่อนยึดพระเครื่องมูลค่ากว่า 100 ล้าน
 

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2565 ได้มีครอบครัวของผู้เสียหาย เข้ามาขอความช่วยเหลือจาก ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ กก.ดส.ว่า ผู้เสียหายถูกล่อลวงให้ไปรักษาโรคพาร์กินสัน โดยพบว่า น.ส.เอ และ น.ส.บี ได้พาผู้เสียหายออกไปจากบ้าน โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด ไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งแถวชานเมือง กทม.จากนั้นได้ฉีดยาชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกายของผู้เสียหาย จำนวน 1 เข็ม พร้อมเรียกเก็บเงินครั้งแรกจำนวน 50,000 บาท แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่ได้นำเงินติดตัวมา น.ส.เอ และ น.ส.บี จึงล่อลวงให้นำ"พระเครื่อง" ที่พกติดตัวมาด้วยไปจำหน่าย และได้มีการเรียกเงินกับครอบครัวของผู้เสียหายเป็นเงินค่ารักษาจำนวน 300,000 บาท 

 

ทั้งนี้ น.ส.เอ และ น.ส.บี ได้ยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด และ"พระเครื่อง"ทั้งหมด อาทิ สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เหรียญหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง พระกริ่งปวเรศ เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ และพระเครื่องอื่น ๆ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ไว้เป็นหลักประกัน ก่อนที่ทางครอบครัวจะมาร้องทุกข์กับตำรวจให้ช่วยเหลือ 

\"สองสาวแสบ\" ลวงเซียนพระรักษาโรคร้าย ก่อนยึดพระเครื่องมูลค่ากว่า 100 ล้าน

ต่อมา ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ทำการสืบสวนก่อนเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายคืนได้ทั้งหมด สำหรับพฤติการณ์ของ น.ส.เอ และ น.ส.บี นั้นพบว่าจะแฝงตัวไปตามคาเฟ่ที่มีผู้สูงอายุ โดยกล่าวอ้างว่ารักษาโรคต่างๆได้ 

 

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เอ และ น.ส.บี ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ และไม่ได้เป็นแพทย์หรือพยาบาลตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.บี มีหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ในคดี"ยักยอกทรัพย์" จึงนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.เอ และ น.ส.บี ต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ