อ่วม "พรีมายา" เจอผิดหลายข้อหา จี้สอบเส้นทางการเงิน เสียภาษี

กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ร้องต่อตำรวจไซเบอร์ ขอให้เอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพอวเตอร์ กับแบรนด์ "พรีม่า มายา" ฐานใช้ข้อความเป็นเท็จทั้งภาพ และคลิปที่เข้าข่าย หลังปรากฏภาพผู้หญิงยืนข้างรถหรูยี่ห้อหนึ่ง พร้อมข้อความใช้เงินลงทุน 6,000 บาท 3 เดือน ได้เงินคืน 15 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่รัฐสภา นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภคใน กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงถึงกรณียื่นเรื่องร้องเรียนขอให้ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคตรวจสอบบริษัท พรีมา มายา จำกัด ที่จำหน่ายอาหารเสริมลดน้ำหนัก

นายจิรวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่น่าเป็นความจริงและไม่ได้มีการซื้อขายรถจริง นอกจากนั้นจากการตรวจสอบงบดุลของบริษัทตั้งแต่ปี 2562-2564 เป็นระยะเวลาปี บริษัทมีกำไรเพียง 6 ล้านบาท ทำให้ผู้ซื้อสินค้า ตัวแทนสินค้ามีความคาดหวังว่าจะได้กำไร ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายอัจฉริยะได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษกับบริษัทดังกล่าวในฐานความผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และคดีฉ้อโกง โดยที่ผ่านมา กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาร่วมตรวจสอบ พบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้ยื่นขอจดทะเบียน ขายตรง ซึ่งมีโทษและมีความผิด จากนี้ก็จะให้ สคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน สอบสวน ผู้ต้องหาที่มีความผิดเจน เรื่อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และจะพิจารณาความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย อย. ก็แจ้งว่าบริษัทนี้ ไม่ได้ยื่นขอโฆษณาและมีการโฆษณาเกินจริง รวมถึงทางอนุ กมธ.จะให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากร บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลัง และตรวจสอบว่ามีการเสียภาษีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีตัวแทนขายไม่ยื่นเสียภาษี