รวบ"อดีตพนักงานสาว" โกงเงินบริษัทอสังหาฯ เสียหายกว่า 18 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2565 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป.และ ว่าที่ พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.ป.เข้าจับกุม น.ส.อนิศรา(สงวนนามสกุล)  อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ"ศาลอาญา" ที่ 1932/2562 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ในข้อหา "ลักทรัพย์นายจ้าง" และร่วมกันลักทรัพย์ หรือ"รับของโจร" โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด้านหน้าแมนชั่นแห่งหนึ่ง ภายในซอยแบริ่ง 1 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

การจับกุมสืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2556 นายสงวน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ได้รับ น.ส.อนิศรา ผู้ต้องหา เข้ามาเป็นลูกจ้างทำงานในตำแหน่ง"เจ้าหน้าที่การเงิน" มีหน้าที่กรอกข้อความรายละเอียด ตามรายการเช็คเพื่อให้นายสงวน ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่มาดำเนินธุรกิจด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 น.ส.อนิศรา ได้นำเช็คมาให้ นายสงวน ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายตามปกติ แต่ภายหลังเมื่อนายสงวน ตรวจสอบเช็คดังกล่าวกลับพบว่า เช็คที่ใช้สำหรับสั่งจ่ายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท จำนวน 2 ฉบับ ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายให้กับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัท โดย น.ส.อนิศรา เป็นผู้นำหลักฐานใบวางบิลและใบสั่งจ่ายค่าเก็บงวดงาน ของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีการชำระหนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ มาหลอกให้นายสงวน ออกเช็คชำระหนี้อีกครั้ง โดยจะสั่งจ่ายให้กับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นคนรู้จักของ น.ส.อนิศรา 

ต่อมา นายสงวน ได้ตรวจสอบบัญชีเช็คของตนทั้งหมด พบว่า น.ส.อนิศราฯ ได้กระทำการในลักษณะดังกล่าวข้างต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ถึง พ.ศ.2561 มีสั่งจ่ายเช็ค ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของทางบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 219 ครั้ง รวมเป็นเงิน 18,141,129.44 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงทำให้บริษัท นายสงวนจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อนิศรา และผู้ต้องหาอีก 6 ราย (เจ้าของบัญชีที่รับเงินจากเช็คของบริษัท) ต่อ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน โดยภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ได้เข้ามอบตัว และถูกจับกุมตัวแล้ว มีเพียง น.ส.อนิศรา ผู้ต้องหา ที่ยังคงหลบหนีคดีอยู่ กระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.ทำการสืบสวนติดตามจับกุมพบว่า น.ส.อนิศรา ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในแมนชั่นพื้นที่ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว 

จากการสอบสวน น.ส.อนิศรา เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยเจ้าของกิจการพึงระวัง การทำธุรกรรมทางการเงิน จะต้องมอบหมายให้บุคคลที่ไว้วางใจได้ดำเนินการ และต้องมีการตรวจสอบบิลใบเสร็จ เปรียบเทียบกับรายการค่าใช้จ่าย ในทุกๆ ครั้ง เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปของเงินที่ได้ใช้จ่ายไป

อนุสรณ์ สาระศาลิน รายงาน