เมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 25 ส.ค.65 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำโดย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ "ทนายรณรงค์" พาครอบครัวเหยื่อไฟไหม้ผับเมาเท่นบี จำนวน 33 ครอบครัว เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สั่งการโอนย้ายคดีเมาเท่นบี มายังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งได้มีการเดินขบวนจากหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีการถือป้ายเรียกร้องขอความช่วยเหลือ รวมทั้งรูปผู้ตายและผู้บาดเจ็บจากกรณีเพลิงไหม้ดังกล่าว
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ เปิดเผยว่า การเรียกร้องในวันนี้เพราะรู้ว่านายสมยศ ปั้นประสงค์ หรือ "เสี่ยยศ" เจ้าของผับ เป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ รวมทั้งการก่อสร้างผับมีเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และเทศบาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต รวมทั้งตำรวจจะมีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากผู้เสียหายถือว่าเป็นคู่ขัดแย้งของเจ้าหน้าที่
ทนายรณรงค์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่มายื่นถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือ การขอให้มีคำสั่งโอนคดีมากองปราบเพื่อป้องกันตำรวจในพื้นที่แทรกแซงคดี เนื่องจากคดีนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ จ.ชบบุรีมีส่วนได้ส่วนเสีย หากยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทำคดีนี้ต่อ อาจไม่ได้รับความยุติธรรม ประการต่อมาคืออยากจะมห้มีการตรวจสอบว่าการเปิดสถ่นบันเทิงเหบ่านร้มีเส้นทางการเงินอย่างไร ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จ.ชลบุนีตรวจไม่เจอ จึงอยากให้ทางกองบังคับการปราบปราบตรวจซ้ำ ว่าจะเจอหรือไม่
นอกจากนั้นคือการเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาจนถึงระดับปฏิบัติการ ที่สำคัญคืออยากให้ตำรวจช่วยติดตามเร่งรัดการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่ทางผับต้องรับผิดชอบ รวมทั้งให้มีการติดตามนโยบายการตรวจ จับ ปิด ผับเถื่อนทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ตลอดจนอาคารที่ใช้ประกอบการร้านอาหารหรือผับมีมาตรฐานการป้องกันไฟไหม้ตามกฎหมาย เนื่องจากผ่านมา 20 วันยังไม่เห็นนโยบายที่ชัดเจน อย่างสุดท้ายคืออยากให้งดการแจกตั๋วผับเถื่อนด้วย อยากให้เห็นใจประชาขนในพื้นที่ หากพบว่าไม่ถูกกฎหมายก็ไม่ต้องให้เปิด ก่อนหน้านี้ที่ได้รวมตัวไปร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ "ดีเอสไอ" รับทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ จึงมาร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดคดีอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง