ให้การช่วยเหลือหรือไม่? จนท.พาวิ่งหนีสื่อวุ่น ส.ต.ท.หญิง ทำร้าย "อดีตทหาร"

จากกรณี "อดีตทหาร" เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นนายจ้างของตนเอง บังคับใช้แรงงานดูแลรับใช้  และทำร้ายร่างกาย  ตบตีตามร่างกาย  ช็อตไฟฟ้าต ใช้ไม้หน้าสามตีที่ใบหน้าจนดั้งหัก ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี  

ล่าสุดวันนี้ (20 ส.ค.2565)  ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์  (สงวนนามสกุล)  อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ผู้ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี จากนั้น  “บิ๊กโจ๊ก”  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศพดส.ตร.ได้เข้าสอบปากคำ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ด้วยตนเอง โดยภายหลังจากที่ “บิ๊กโจ๊ก” สอบเสร็จ ตำรวจได้ควบคุมตัว ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ออกจากห้องประชุมบริเวณอาคารของตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีขึ้นรถ เพื่อนำตัวไปให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำต่อที่อาคารของ สภ.เมืองราชบุรี

ระหว่างทางควบคุมตัวผู้ต้องหา ทำร้าย "อดีตทหาร" ออกจากอาคารหนึ่ง ไปยังอีกอาคารหนึ่ง มีตำรวจหญิง 2 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว พาผู้ต้องหาวิ่งหนีผู้สื่อข่าวที่ ไปทำข่าว แต่ก็ไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามไปยังผู้ต้องหา ว่าอยากจะพูดอะไรหรือไม่ อยากขอโทษผู้เสียหายมั้ย อยากชี้แจงอะไรหรือเปล่า ผู้ต้องหาทำเพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ชั้น 3

ซึ่งขณะนี้มีการตั้งคำถามในโลกโซเชียลว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหา ทำร้าย "อดีตทหาร" แบบนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันหรือไม่ ทำไมถึงได้รับการดูแลที่ดีกว่าผู้ต้องหารายอื่น หรือเป็นเพราะ ผู้ต้องหานำใบรับรองแพทย์มายื่นให้ โดยอ้างว่ามีอาการ ป่วย ควบคุมตนเองไม่ได้ จึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ