ไม่เชื่อ "เสียชีวิต" ในที่เกิดเหตุ ยืนยันต้องมีคนรับผิดชอบ

ที่​ สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ​ทางครอบครับของผู้เสีนชีวิต​  ได้เดินทางเข้ามาขอรับศพ​ เพื่อนำไปประกอกพิธีบำเพ็ญกุศล​ สวดพระอภิธรรมศพ​ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขอรับศพ  โดยทางญาติพี่น้องของ "ผู้เสียชีวิต"  ซึ่งไม่ประสงค์จะให้ข้อมูลกล่าวเพียงสั้น​ ๆ​ ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบผลทางนิติวิทยาศาสตร์ และอยากจะรอผลในส่วนนี้ก่อน เพื่อจะได้ทราบเวลาที่เสียชีวิตอย่างแน่ชัด ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้บอกว่า ไม่ติดใจนั้น เพราะเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จนมาเอะใจในภายหลัง จึงได้มีการปรึกษาไปทางทนายความแล้ว ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต​ ทางแพทย์ ระบุว่า เสียชีวิตจากภาวะเลือดคลั่งในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ เนื่องจากขั้วหัวใจฉีกขาดปริแตก และกระดูกซี่โครงหัก ส่วนระยะเวลาการเสียชีวิต จะต้องรออีก 45 วันเพื่อทราบผลชันสูตรอย่างระเอียดอีกครั้ง

กระทั่งเวลา​ 12.30​ น.​ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม​ ได้เดินทางมาพบกับทางญาติของผู้เสียชีวิต​เพื่อจะให้ความช่วยเหลือในด้านคดี

โดยทางลูกสาว เปิดเผยว่า ขณะได้รับแจ้งว่าพ่อของตัวเองเสียชีวิตภายในรถยนต์หลังจากถูกเคลื่อนย้ายมาไว้ที่เก็บของกลาง"ตำรวจทางหลวง" หลังจากที่เกิดเหตุนานกว่า 12 ชั่วโมง ขณะนั้นไม่ได้ติดใจ เนื่องจาก "ตำรวจ"ให้ดูกล้องวงจรปิดและแจ้งว่าในขณะเกิดเหตุไม่มีคู่กรณี เป็นการขับรถเกิดอุบัติเหตุด้วยตัวเอง  แต่หลังจากทราบว่ามีกู้ภัยไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนาน 15 นาที แต่ไม่พบศพ จึงสงสัยว่าพ่อตนเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  หรือเสียชีวิตขณะที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานีตำรวจ โดยไม่มีการตรวจสอบที่แน่นอนก่อน หลังจากนี้จะเดินหน้าเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ไม่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่ามีคนใดเกี่ยวข้องบ้าง 

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า​ วันนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อเอาผิดกับตำรวจทางหลวง และกู้ภัยที่ช่วยเหลือ ในข้อประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนในข้อหาอื่นๆ ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง 

ส่วนในเรื่องของผลชันสูตร ระบุว่า มีภาวะเลือดคลั่งในช่องเยื้อหุ้มหัวใจเนื่องจากขั้วหัวใจฉีกขาด ปริแตกและกระดูกซี่โครงหัก ด้านลูกสาวจึงมองว่าไม่น่าทำให้พ่อของตนเองเสียชีวิตในทันที ซึ่งต้องรอผลอย่างเป็นทางการอีกครั้งใน 45 วัน