สืบ 5 รวบหนุ่มหลอกเป็นคนจากบริษัทใกล้เคียงเดินไปหลอกขอเงิน "ทำบุญ" เจ้าของร้านเครื่องเขียนย่านพระราม 3 ก่อนเชิดเงินหนีไปแต่งรถ สอบปากคำก่อเหตุกว่า 50 ครั้ง เน้นหลอกบริษัทใหญ่ชอบทำบุญ
พล.ต.ท.สำราญ นวบมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.พชรชัย ปาณะดิษ พ.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ภักดีดินแดน รอง ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 แถลงจับกุมนายธนวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น“ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 52/2563 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2563 พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอซ่า 350 สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน เสื้อ – กางเกง สวมใส่ ก่อน - หลังก่อนเหตุ 3 ตัว อุปกรณ์อะไหล่รถยนต์นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาซื้อ
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายผู้เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องเขียนแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดยคนร้ายแสดงตัวเป็น เจ้าของบริษัทที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน จากนั้นเชิญชวน "ทำบุญ" โดยใช้อุบายจะนำเงินไปสร้างห้องเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นเงิน 90,000 บาท หลังทราบว่าตนถูกหลอกจึงได้ทำการแจ้งความดังกล่าว ตำรวจชุดสืบสวนบก.น.5 จึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางหนีของคนร้าย ทำให้ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะและเส้นทางหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ไปจนถึงที่พักของคนร้ายบริเวณอ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ต่อมาจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมเก่าทราบว่าคนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.เทียนทะเล
จึงประสานขอข้อมูลจนทราบชื่อสกุลคนร้ายพบมีหมายจับค้างเก่าของสน.บางโพงพาง และมีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดตามเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าที่พัก พบยานพาหนะที่คนร้ายใช้ และพบว่าที่พักดังกล่าวเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ จึงวางกำลังซุ่มดูบริเวณโดยรอบ ก่อนคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 52/2563 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2563” ผบช.น. กล่าว
ด้านพ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า จากการสอบสวนคนร้ายให้การว่า หลังจากพ้นโทษ ปลายปี พ.ศ.2563 ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาประมาณ 50 ครั้ง บริเวณพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, นครปฐม, ปทุมธานี และ นนทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจของบริษัทอุตสาหกรรม เมื่อได้เงินจากการหลอกผู้เสียหายจะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ "แต่งรถ" เพื่อนำมาขายที่ร้าน และนำเงินเล่นการพนันซื้ออยาเสพติดบางส่วน ส่วนวิธีการอ้างบริษัทที่ขับไปเจอเจอว่าอยู่อีกบริษัทใกล้เคียงให้มา "ทำบุญ" ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นร้านใหญ่ทั้งคู่ จึงหลงเชื่อ "ทำบุญ" เน้นหลอกคนเอาหน้า เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวนสน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง