ข่าว

จ่อเชือด รุ่นพี่ รับน้อง "อุเทนถวาย" โหด พยาน 40 ปากมัดแน่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รอง ผบช.น. เผยคดีรุ่นพี่ รับน้อง"อุเทนถวาย" สุดโหด จนทำให้เหยื่อเสียชีวิต ได้แยกผู้กระทำผิดออกเป็น 2 กลุ่ม ทั้งที่รุมทำร้าย และสั่งการ เพื่อคดีตามขั้นตอนแล้ว ย้ำจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด แต่มีพยานเห็นเหตุการณ์กว่า 40 คน

จากกรณีกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก "อุเทนถวาย" ได้จัดกิจกรรมรับน้องอุเทนถวาย และลงมือทำร้ายร่างกาย นายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม ตามกลาง อายุ 22 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิต ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

จ่อเชือด รุ่นพี่ รับน้อง "อุเทนถวาย" โหด พยาน 40 ปากมัดแน่น

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.2564 ที่ สน.ปทุมวัน  มีรายงานว่า ทางตัวแทนมหาวิทยาลัยฯ "อุเทนถวาย" จะนำพยานหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ในช่วงขณะที่กลุ่มรุ่นพี่อุเทนถวาย ประมาณ 5-6 คน กำลังพยายามนำตัวผู้เสียชีวิต ออกจากอาคาร เพื่อนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล โดยจะนำภาพดังกล่าวมามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รวมทั้งให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เบื้องต้นยังไม่พบตัวแทน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาพบตำรวจแต่อย่างใด

 

 

จ่อเชือด รุ่นพี่ รับน้อง "อุเทนถวาย" โหด พยาน 40 ปากมัดแน่น

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังอยู่ในระหว่างทยอยเรียกสอบปากคำพยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการแยกออกเป็นกลุ่มๆ เบื้องต้นพบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้นายวีรพัฒน์ เสียชีวิตแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้แบ่งเป็นกลุ่มคนที่เข้าไปรุมทำร้ายเหยื่อ ประมาณ 6-7 คน และผู้สั่งการ

 

 

จ่อเชือด รุ่นพี่ รับน้อง "อุเทนถวาย" โหด พยาน 40 ปากมัดแน่น

 

 

โดยทั้งหมดเป็นรุ่นพี่อุเทนถวาย ชั้นปีที่ 2 ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะข้อความการสนทนาทางไลน์ เพื่อระบุตัวผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยเจตนา ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

 

 

“ยืนยันว่า คดีนี้ทางตำรวจไม่หนักใจ โดยเฉพาะเรื่องการพิสูจน์ความผิด แม้ว่าในที่เกิดเหตุอาจไม่มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดเหตุการณ์ แต่ก็มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 30-40 คน ที่สามารถชี้ตัวได้ว่า ใครทำอะไรในเหตุการณ์ดังกล่าวบ้าง  สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว เห็นว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ควรต้องเพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการรับน้องที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของอาจารย์ อย่างไรก็ตาม ทราบว่าวันนี้ทาง พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 จะเดินทางมาควบคุมการทำสำนวนด้วยตัวเองด้วย” พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ