ตั้ง 4 ปัจจัย หาข้อสรุปเหตุอาคารไฟไหม้พังถล่ม 

     เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ จุดเกิดเหตุอาคารไฟไหม้ถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิต มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาสำรวจที่เกิดเหตุ ทั้งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. โดยในวันนี้ คาดว่าจะยังไม่มีการรื้อถอนซากอาคารที่พังถล่ม 
     โดยนายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา เผยว่า ขณะนี้ยังต้องรอใบอนุญาตในการรื้อถอนอยู่ จึงยังไม่สามารถรื้อถอนซากบ้านที่พังถล่มได้

     ขณะที่ในช่วงเช้ากรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบอาคารจุดเกิดเหตุที่ไฟไหม้เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าอาคารที่พังถล่มนั้นเป็นสถานประกอบกิจการจริงหรือไม่ เพื่อที่จะดูแลลูกจ้างในเรื่องสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

     อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้สำนักงานประกันสังคม กำหนดมอบเงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้หมู่บ้านกฤษฎานคร 31 เวลา 13.00 น. ที่ วัดศาลาแดง โดยมี นางธิวัสรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้มอบเงิน

     ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า วันนี้ทางสภาวิศวกรจะไม่มีการลงพื้นที่ เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว เบื้องต้น ได้วิเคราะห์ผ่านการดูคลิปวิดีโอที่มีการแชร์กันทางโซเชียลว่ามีสิ่งที่น่าสนใจคือ ต้องมาหาสาเหตุว่า เพราะเหตุใดอาคารถึงถล่มลงมา 

     ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวด้วยว่า โดยมี 4 ปัจจัยหลัก ในการประเมิน คือ 1.การออกแบบถูกต้องหรือไม่  2.การก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่  3.ใช้งานผิดประเภทหรือไม่  และสุดท้าย มีตัวเร่ง ในกรณีนี้หมายถึงเกิดเพลิงไหม้ และมากกว่านั้น ต้องมาวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้มีผู้เสียชีวิต 

     "ทั้งนี้ทางสภาวิศวกรยังอยากให้มีการถอดบทเรียน ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะนี้อีก ให้มีการนำแปลนของโครงสร้างอาคารมาดูควบคู่กับการทำงานของเจ้าหน้าที่" ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าว