สุดสงสาร"น้องแหวน"บุตรสาวสาวเหยื่อด้ามไม้กวาดเงินเหลือในบัญชีแค่ 58 สตางค์

จากกรณีนายธวัช นิตสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นำ น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ หรือ “น้องแหวน” อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/5 หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช  ลูกสาวของนางจิราวรรณ แก้วเพชร หรือสาวเหลียด อายุ 39 ปี และนายศุภชัย นิตสมบูรณ์  ลุงของ น.ส.จิรษา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนประจำศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชว่า นางจิราวรรณ ถูกกลุ่มบุคคลในหมู่บ้านเดียวกันรุมทำร้ายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน อำมหิตผิดมนุษย์ โดยจับแก้เปลือยล้อนจ้อนก่อนรุมทุบตีจนกะโหลกศรีษะแตกร้าว ร่างกายช้ำบวมอย่างหนักแล้ว ยังใช้ไม้ไผ่ด้ามไม้กวาดแทงทะลวงเข้าไปในอวัยวะเพศจนอวัยวะภายในฉีกขาดถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราช เหตุเกิดภายในห้องพักรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบริเวณ 5 แยกนาพรุ หมู่ 3  ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราชมากนัก เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2564  ที่ผ่านมา ในขณะที่นางยุภา สุขทอง หรือสาวแข้ง อายุ 56 ปี พร้อมลูกสาว ลูกชายที่ปรากฏในคลิปปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายและเอาอ้าไม้กวาดแทงทะลวงอวัยวะเพศผู้บาดเจ็บตามที่เป็นข่าว จนล่าสุดเมื่อเวลา 20.02 น. คืนที่ผ่านมา (23 มี.ค.) นางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้วที่ รพ.มหาราช  ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

(25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตรวจยึดเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวของนางจิราวรรรณ หรือสาวเหลียด ผู้ตายที่ถูกนางยุภา สุขทอง รวบรวมนำไปทิ้งในบ่อพักน้ำท่อระบายน้ำในบังกะโล ส่วนเสื้อชั้นในที่ฉีกขาดตามที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่าพบในห้องน้ำวันเกิดเหตุ เจ้หมี อ้างว่าได้เก็บทิ้งถังขยะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญ น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ ลูกสาวของนางจิราวรรณ แก้วเพชร หรือสาวเหลียด ไปสอบสวนให้ปากคำอีกครั้งนานกว่า 4 ชม. จนทำให้ น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ ไม่สามารถไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลได้ตามทั้ง ๆ ที่ทาง รพ.อนุญาตให้รับศพได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้

               น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตำรวจเรียกสอบในหลายประเด็นนานกว่า 8 ชม. และเมื่อเย็นวานนี้ตำรวจตามยึดเสื้อผ้าของแม่ที่คนร้ายนำมาทิ้งในท่อระบายน้ำในบังกะโล ตำรวจก็เรียกตนและญาติ ๆ ไปสอบสวนอีก 4-5 ชม.ตั้งแต่เช้าจนถึงเกือบบ่ายโมง  จึงยังไม่ได้ ๆไปรับศพแม่มาบำเพ็ญกุศล คาดว่าเสร็จแล้วจึงจะไปรับศพที่ รพ.มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช

               ในขณะนี้ถือว่าตนเป็นคนเดียวที่วิ่งเรื่องคดีของแม่ ตนอ่อนเพลียอย่างหนักแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เมื่อไปให้ปากคำกับตำรวจในฐานะฝ่ายผู้เสียหาย แต่กลับเครียดเพิ่มมากขึ้น เพราะสิ่งที่ได้รับทราบและชี้แจงจากตำรวจเหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามเขาไม่ได้กระทำความผิดอะไรเลย รวมทั้งเรื่องใบรับรองผลการผ่าพิสูจน์ตำรวจอ้างว่าไม่พบความผิดปกติอะไรเลย แต่ตนอยากให้ตำรวจชี้แจงในประเด็นที่ปรากฏตามคลิป มันเป็นไปไม่ได้ที่แม่ของตนเข้าไปในห้องแล้วได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเองโดยไม่มีใครทำร้าย เสื้อผ้าที่ถูกถอดนำไปเผาและทิ้งในท่อระบายน้ำ การจัดฉากเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวที่เปื้อนเลือดมาเป็นผ้าห่มที่ไม่มีรอยเปื้อนเลือด  สิ่งเหล่านี้ใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนดำเนินการ และไม่มีใครต้องรับผิดชอบในการกระทำเลยหรืออย่างไร

 

น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ กล่าวอย่างน่าสงสารอีกว่า ตนเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ฐานะยากจนมีอาชีพขายดอกไม้ตามร้านอาหาร ทำมาหาเลี้ยงตนเองมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ไม่มีเงินมากพอที่จะวิ่งเต้นในเรื่องคดีความ  หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แม่แต่ค่าแพมเพิสให้แม่ถูกทำร้ายเข้ารักษาตัวที่ รพ.นานกว่า 1 เดือน จนเสียชีวิตในที่สุด รวมค่าใช้จ่ายกว่า 15,000 บาทตนก็วิ่งเรี่ยไรรวบรวมจากญาติที่อ้างและหยิบยืมบางส่วนตนกลายเป็นหนี้เป็นสิน และยังต้องนำศพแม่มาจัดบำเพ็ญกุศลศพอีก ในขณะที่ผู้ต้องหาที่มีฐานะร่ำรวยกำลังอยู่กันอย่างสบายใจ ความถูกต้องยุติธรรมในสังคมนี้อยู่ตรงไหน ตนอยากให้กองปราบปรามมาทำคดีนี้เพราะไม่มั่นใจในการดำเนินการของตำรวจในพื้นที่

               ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 25 มี.ค.64 น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ อายุ 21 ปี พร้อมด้วยญาติๆ เดินทางมารับศพผู้ตายที่นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ท่ามกลางความเสียใจกับครอบครัว โดยมีรถกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง อำนวยความสะดวก ในการนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน 12/5 หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นเรื่องเอกสาร ทางญาติมีการจุดธูปคนละ 1 ดอก เพื่อเป็นการเชิญวิญญาณผู้ตาย กลับบ้านตามความเชื่อ ขณะที่มีญาติ รายหนึ่ง มีการบอกกล่าวผู้ตาย ขอให้ช่วยเรื่องคดี ให้มีความคืบหน้า ขอให้ตำรวจจับคนที่ทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต  เมื่อนำศพไปถึงได้มีการประกอบพิธีรดน้ำศพและบรรจุศพลงหีบศพตั้งบำเพ็ญกุศลโดยยังไม่กำหนดวันฌาปนกิจที่แน่ชัด เพราะรอความชัดเจนในทางคดีหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะไม่ยอมเผาศพและจะแห่ศพประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป  

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพื่อนบ้านและคนที่รับทราบวิถีการดำรงชีวิตของ น.ส.จิราษา บุตรสาวคนตาย ต่างยกย่องชื่นชมที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับแม่ผู้บังเกิดเกล้า ทั้ง ๆ ที่มีฐานะยากจนและตัวเองต้องต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด เริ่มหาเงินโดยการออกขายดอกไม้ตามร้านอาหารตั้งแต่อายุ 5 ขวบจนถึงปัจจุบัน และการตั้งศพแม่บำเพ็ญกุศลก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาเป็นทุนจากที่ใด เพราะมีเงินติดตัวไม่กี่ร้อยบาท ส่วนในบัญชีธนาคารมียอดเหลืออยู่ 58 สตางค์  ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ฐานะยากจนคงจะช่วยได้ในบางส่วนหากใครอยากจะช่วยเหลือ  น.ส.จิราษ หรือ “น้องแหวน” สาวยอดนักสู้เพื่อเป็นทุนในการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพแม่และทุนในการต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่บังเกิดเกล้า สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช ชื่อบัญชี น.ส.จิราษา นิตสมบูรณ์ เลขบัญชี 987-9-947623-9.              

ไพฑูรย์  อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช