'ตั๊น จิตภัสร์' กมธ. พารอบครัวเหยื่อกระสุน 'ส.ต.อ.' ร่วมถก เจรตำรวจ ชี้แจ้งคดี 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ สน.ดุสิต น.ส.จิตภัสร์ หรือ ตั๊น กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร(กมธ.) มาติดตามกรณีที่ครอบครัวเจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรมที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าสถานีตำรวจนครบาลดุสิตยื่นหนังสือขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน

อ่านข่าว : เครือข่ายเพื่อนตำรวจ แจ้งความกลับ 'ตั๊น จิตภัสร์' หมิ่นประมาท- แจ้งเท็จ

เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ(สบ.8) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จตุพร พลภักดี ผกก.สน.ดุสิต เข้าร่วมหารือ นอกจากนี้มีนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดา และญาติของนายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล เดินทางมาติดตามผลหารือ

 

     โดยก่อนหน้านี้ นางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดา พร้อมครอบครัวของผู้ตายได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนโอนสำนวนไปให้กองบังคับการปราบปรามทำคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564ที่ผ่านมา

 

   

ต่อมาวันที่ 5 มกราคม 2564 น.ส.จิตภัสร์ เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น จนนำมาสู่การนัดหมายหารือเรื่องอำนวยความยุติธรรมทางคดีกับคู่กรณี โดยมีผู้แทนที่เกี่ยวข้องพูดคุยกันในวันนี้ เพื่อช่วยเหลือทางคดีอาญา   

 

น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ตนมาในนามกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับหนังสือจากนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น ซึ่งวันนี้จะมีการพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยได้ประสานงานมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเกี่ยวกับเรื่องคดี ทั้งนี้อยากสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร้องมาถึงกมธ.ตำรวจ ในฐานะกรรมการธิการตำรวจก็จะติดตามคดีนี้

 

"ตนเองเชื่อมั่นว่าจะมอบความเป็นธรรมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ทางผู้ร้องก็ต้องการที่จะเปลี่ยนคณะทำงานคดี"  น.ส.จิตภัสร์ กล่าว 

 

น.ส.จิตภัสร์ กล่าวด้วยว่า ได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ซึ่พร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการทำงานในระดับกองบัญชาการมาทำในคดีนี้ และ ขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเข้าใจว่าตำรวจก็ทำงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งทราบว่าในคดีนี้ได้เร่งสอบสวนอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคดีอุจฉกรรจ์ที่สนใจของประชาชน  

 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทาง บช.น.ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้รับทราบปัญหาความไม่สบายใจ พร้อมยืนยันว่าการดำเนินคดีทุกคดี เรายึดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตามต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวเท่านั้น

 

"ขอให้ครอบครัวเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของตำรวจสน.ดุสิต นอกจากนี้ก็จะตั้งคณะกรรมการระดับกองบัญชาการพิจารณาอีกชุด โดยมีรองผู้บัญชาการเป็นหัวหน้าคณะร่วมกับตำรวจอีกหลายนาย และจะเร่งทำงานให้เร็วตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว 

 

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับการสั่งให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ออกจากราชการ ต้องดูจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง หากส่อว่าจะไปยุ่งเหยิงคดี หรือข่มขู่พยานทำให้คดีเสียหาย ทำให้เกิดความเสียหายกับราชการก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนแน่นอน

 

 ทั้งนี้เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีคำสั่งให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธ พ้นจาก สน.ดุสิต ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นแล้วที่ไม่สัมผัสกับประชาชน ก่อนที่จะมีการพิจารณาอีกครั้ง 

 

     ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า ภายหลังการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า วันนี้ทางแม่อยากให้เปลี่ยนทีมสืบสวนสอบสวน โดยได้ความกระจ่างในคดีในทุกด้านแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนของการไปคุยกันที่ศาล พร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเอกสาร

 

นางจันทร์เพ็ญ กล่าวด้วยว่า วันนี้แม่ได้ความกระจ่างจากสน.ดุสิตแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังยืนยันขอให้เปลี่ยนทีมสืบสวนอยู่ ทางผู้ใหญ่ก็ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้