กราดยิงห้างเทอร์มินอลโคราช

"คมชัดลึกออนไลน์" จะขอกล่าวถึงอีกเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญและสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563  จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารของหน่วยกองพันกระสุนที่ 22 กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา เกิดอาการคลุ้มคลั่งยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วย นางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายเสียชีวิตคาที่ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: "ประการ" ผอ.กอล์ฟ"ชิงทองยิงตาย 3 ศพ

จ.ส.อ. จักรพันธ์ ได้ซื้อบ้านในโครงการสวัสดิการทหารที่ตำบลโคกกรวด จำนวน 1,500,000 บาท และได้ให้นางอนงค์  ดำเนินการเรื่องเอกสารและการจัดตกแต่งภายในบ้านให้ จนมีเงินส่วนเกินที่เหลือจำนวนหนึ่ง นางอนงค์จึงส่งเงินส่วนนี้ให้นายพิทยา แก้วพรม ซึ่งเป็นนายหน้า โดยจ.ส.อ.จักรพันธ์ ต้องการขอเงินส่วนนี้คืน โดยก่อนเกิดเหตุ ทางด้านพ.อ. อนันต์ฐโรจน์ เป็นคนกลาง มีการนัดนางอนงค์มาชี้แจงข้อเท็จจริง  และได้นัดหมายนายพิทยา มาพูดคุย แต่ปรากฎว่าไม่มีเงินจ่ายอ้างว่าใช้หมดไปแล้ว ระหว่างการเจรจาที่ไม่ลงตัว จ.ส.อ.จักรพันธ์ ได้ใช้อาวุธปืนพก 9 มม.ยิงพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต ส่วนนายพิทยาได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นได้ขับรถไปคลังอาวุธกองพันสรรพาวุธ กระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ต.ไชยมงคล ยิงทหารเวรเฝ้าคลังตาย 1 จะนำเอาอาวุธ HK 3  กระบอก ,ปืน M60 3  กระบอก แล้วไปที่คลังกระสุนเพื่อเอากระสุนปืน HK 736 กระบอก และปืน M60 ก่อนขับรถฮัมวี่ มุ่งหน้าไปทางวัดป่าศรัทธารวม โดยระหว่างทางใช้อาวุธกราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมาและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ รวม 9 ราย  แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช โดยระหว่างหนีเข้าไปในห้าง ได้มีการโพสต์ข้อความ และไลฟ์สดขณะก่อเหตุผ่านโลกโซเชียลอย่างไม่สะทกสะท้าน

เหตุการณ์นี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ในขณะนั้น) พร้อมคณะและชุดหนุมานกองปราบกว่า 20 นาย เดินทางมาที่เกิดเหตุและแฝงตัวเข้าไปในภายห้าง เพื่อทยอยนำประชาชนที่ติดอยู่ข้างในจำนวนนับสิบรายออกมาได้อย่างปลอดภัย

ก่อนที่รุ่งเช้า เวลาประมาณ 09.00 น. เกิดเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ ตำรวจได้วิสามัญคนร้าย บริเวณหน้าห้องเย็นใกล้บันไดเลื่อนชั้นเอ หลังใช้เวลาปิดล้อมห้างดังกล่าวอยู่ร่วม 20 ชั่วโมงด้วยกัน เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 31 รายและบาดเจ็บอีกร่วม 57 รายด้วยกัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายอุทัย ขันอาสา พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ปฎิบัติงานอยู่ภายในศูนย์การค้า และถูกคนร้ายยิงขณะเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างภายในห้าง ได้เสียชีวิตลงเป็นรายสุดท้าย รายที่ 31 หลังรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสมานานกว่า 6 เดือนด้วยกัน

ส่วนปมเหตุจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสันนิษฐานว่า มาจากเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องเงิน และการซื้อขายบ้านโดยผู้ลงมือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ซึ่งปมธุรกิจของนางอนงค์นั้นเกี่ยวกับโครงการบ้านจัดสรรที่เป็นเครือญาติของนายทหารและนำโครงการมาเสนอขายให้ทหารชั้นผู้น้อยในราคาถูก พร้อมกับมีการจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลด้านการอนุมัติเงินกู้ของกรมสวัสดิการทหารบก มาประเมินราคาบานให้สูงกว่าความเป็นจริง เพื่อขออนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่สูง โดยผู้บังคับบัญชาการเซ็นหนังสือรับรองให้อนุมัติง่ายขึ้น

แม้ว่าในที่สุดแล้วทางกองทัพและกรมสวัสดิการทหารบก ปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีขบวนการเงินทอน เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่ทางกองทัพบกได้สั่งตรวจสอบโครงการสวัสดิการทหารและธุรกิจในค่ายทหารทั้งหมด