รู้แล้ว ตำรวจยันแฮกเกอร์ฝั่งยุโรปปล่อยไวรัสเจาะข้อมูล รพ.สระบุรี
ตำรวจเผยไวรัสมัลแวร์โจมตีระบบฐานข้อมูล รพ.สระบุรี มาจากต่างประเทศในฝั่งทวีปยุโรป รับพบข้อมูลโรงพยาบาล-บริษัทเอกชนหลายแห่งถูกเจาะข้อมูลเรียกค่าไถ่ แต่ยังไม่ชัดเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่
วันนี้ 10 ก.ย. 2563 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการข่าวกรองยาเสพติด หัวหน้าเพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ยืนยันว่า มัลแวร์ที่โจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี มาจากต่างประเทศ ในฝั่งทวีปยุโรป ลักษณะมีการส่งต่อข้อมูลหลายขั้นตอน จนมาถึงโรงพยาบาลสระบุรี แต่ยังไม่มีการเรียกเงินค่าไถ่
อ่านข่าว ปอท.เร่งแกะรอยล่าตัวแฮกเกอร์เจาะข้อมูล รพ.สระบุรี
ซึ่งขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทั้งจากตำรวจ ทหาร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) อยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของมัลแวร์ดังกล่าว และลักษณะการทำงานของมัลแวร์ แต่ยอมรับพบข้อมูลมีโรงพยาบาลและบริษัทเอกชนบางแห่งถูกแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบางแห่งได้มีการจ่ายเงินเพื่อเรียกคืนข้อมูลไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าถูกแฮกข้อมูลช่วงเวลาเดียวกันกับโรงพยาบาลสระบุรีหรือไม่ ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลหรือกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียหายได้
พลตำรวจตรีพันธนะ กล่าวยอมรับว่า กรณีโรงพยาบาลสระบุรีเป็นเรื่องใหม่ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมาดำเนินการ แม้จะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งจากนี้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องแสวงหาความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น พร้อมเห็นว่าการจัดตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หน่วยงานใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะช่วยรองรับภารกิจด้านปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อน กระจายอยู่หลายพื้นที่ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้