เปิดคลิปนาที ตร.จับโจรสาวควงปืนชิงทองกลางวันแสกๆ

 

ความคืบหน้ากรณีตำรวจจับหญิงวัย 39 ปี ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนก่อเหตุชี้ทองรูปพรรณร้านทองเยาวราช อึ้ง เฮง เฮง ถ.สุเหร่าคลองหนึ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา วานนี้(30 ก.ค.) โดยตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 31 ก.ค. 2563 ภายหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้คุมตัวนางสาวณิชชาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ กล็อก19 สีดำด้าน ติดไฟฉาย จำนวน 1 กระบอก พร้อมของกลาง สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 2 เส้น มาสอบสวน

 

โดยคนร้ายสาวรายนี้สารภาพว่า ได้เรียกรถแท็กซี่มาจากตลาดมีนบุรี โดยให้รถแท็กซี่ไปส่งที่ร้านทองที่เกิดเหตุ เพื่อต่อดอกทอง จากนั้นเมื่อเข้าไปในร้านก็ทำทีเป็นข้อดูสร้องทองข้อมือ 2 เส้น จากนั้นก็พยายามหนีออกทางหน้าประตู แต่ประตูร้านทองถูกล็อคจากเจ้าของร้าน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาข่มขู่เจ้าของร้าน แต่เจ้าของร้านวิ่งหนีหลบไปหลังร้าน ตนจึงไม่รู้จะทำอย่างไรจนเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ส่วนสาเหตุเกิดจากตนไม่มีเงินกินข้าวเนื่องจากตกงาน

 

 

 

 

 

ด้านเจ้าของร้านเล่าเหตุการณ์ว่า เห็นคนร้ายได้เดินลงรถแท็กซี่และเดินเข้ามาที่ร้านทอง เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. และเข้ามาแจ้งกับตนว่าทำใบรับจำนำทองหาย ตนเองจึงให้กรอกรายละเอียด เพื่อจะได้หาต้นขั้วให้ จากนั้นคนร้ายได้ทำทีขอดูสร้อยข้อมือ 2 บาท จำนวน 2 เส้น เจ้าของร้านจึงหยิบให้คนร้ายดู จากนั้นคนร้ายก็ขอดูสร้อยข้อมือน้ำหนัก 3 บาท อีก 2 เส้น และให้เจ้าของร้านสวมให้ที่ข้อมือเพื่อดูทั้งสองเส้น เมื่อสวมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

จากนั้นคนร้ายก็ทำทีควานหาของในกระเป๋าถืออยู่เป็นเวลานานจนผิดสังเกต จึงแจ้งให้คนร้ายถอดสร้อยข้อมือออกมาคืนให้ก่อน แต่คนร้ายไม่สนใจ จากนั้นคนร้ายได้หันหลังกลับไปเปิดประตูหน้าร้านเพื่อหนี แต่เปิดไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของร้านล็อคประตูไว้ จากนั้นคนร้ายก็ชักปืนพกออกมาจากกระเป๋าสะพายที่ถืออยู่ นำมาขึ้นลำข่มขู่ ให้เจ้าของร้านเปิดประตู แต่เจ้าของร้านได้หลบเข้าไปหลังร้าน และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวได้

 

 

 

ขณะที่ พันตำรวจเอกวาสุเทพ คงกล่อม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้นำตัวคนร้ายไปฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี เนื่องจากยังมีบ้างประเด็นที่ต้องตรวจสอบ เช่น อาวุธปืนที่เป็นของแฟนคนร้าย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากเป็นการที่คนร้ายหยิบออกมาโดยเจ้าของไม่ทราบ ก็ไม่เข้าข่ายมีความผิด แต่อย่างไรก็ตามยังต้องสอบสวนอีกครั้ง

 

 

พันตำรวจเอกวาสุเทพ เปิดเผยอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ช่วงสายทางเจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนและคุมตัวคนร้ายไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรีตามขั้นตอนต่อไป โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหา "ชิงทรัพย์" และ "พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร"