ใครพาเด็ก3ขวบขึ้นภูเหล็กไฟ แม่น้องชมพู่ไม่เชื่อลูกกินน้ำส้ม ไข่เจียวนิดเดียวจะมีแรงเดินขึ้นภู ท้าทีมชันสูตรกรรมาธิการกฎหมาย ลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ย้ำ เป็นไปไม่ได้ลูกเดินหลงป่าเสียชีวิตเอง วอนขอความเป็นธรรมจากสังคม ยันพ่อแม่ไม่ได้ทำร้าย
เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 25636 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ โดยเห็นด้วยกับตำรวจที่ยังสืบสวนคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เพราะเป็นทีมที่ลงพื้นที่ และจนถึงเวลานี้แมีก็ยังเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ที่นัองชมพู่จะเดินขึ้นไปเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกแล้ว ผลตรวจแพทย์นิติเวช ยืนยัน น้องชมพู่ เสียชีวิตเองไม่พบถูกทำร้าย
"ต่อให้น้องหลงป่าเอง ก็ไปไม่ถึงจุดที่พบศพ และแม่ยังคิดว่าน้องน่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงมีคนนำศพขึ้นไป ถ้าไปถึงจุดบริเวณนั้นได้ น้องกินไข่เจียว กินน้ำส้ม แค่นิดเดียว ไม่น่าจะมีมีแรงเดินข้นไปถึงจุดนั้น ถ้าต้องไปคนเดียวไม่มีใครพาขึ้นไปแล้วหลง ก็น่าจะหาเจอตั้งแต่วันแรกที่น้องชมพู่ห่ายไปตั้งแต่วันเเรก" แม่น้องชมพู่ กล่าว
ส่วนผลการชันสูตรของแพทย์นิติเวชที่รายงานต่อคณะกรรมาธิการการยุติธรรม การกฎหมาย สิทธิมนุษยชน ที่ออกมาระบุว่า นัองเสียชีวิตเอง ไม่พบร่องรอยฆาตกรรมการเสียชีวิตจากการขาดอาหาร ขาดน้ำ แม่จะปรึกษาญาติครอบครัว และตำรวจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
"แต่ส่วนตัวอยากให้ทีมแพทย์ที่ขันสูตร และสันนิษฐานว่าน้องตายเอง อยากให้ลงมาดูลงพื้นที่มาพิสูจน์ โดยสมมุติตัวเองเป็นชมพู่ กินน้ำส้ม ไข่เจียวนิดเดียว กินตอน07.00 น. แล้ว09.00น.ขึ้นเขา โดยไม่ต้องมีน้ำ ลองดูว่าจะไปถึงไหม" แม่น้องชมพู่ ตั้งข้อสังเกต
แม่น้องชมพู่ กล่าวอีกว่า ถ้าใครที่ยังไม่ลงพื้นที่อาจจะสมมุติฐานว่าน้องขึ้นไปเองได้ เเม่จึงต้องการให้ลงมาดูด้วยตัวเองว่าเด็กสามขวบจะเดินไปได้จริงหรือไม่ ผลการชันสูตรที่ออกมาค้านสายตา เเต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยหาคำตอบ ให้ตัวเองได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คดีบางคดีหากไม่มีหลักฐานแน่นชัด อาจจะต้องหยุดพักคดี เพื่อรอหลักฐานใหม่ แม่บอกว่า ถึงวันนั้นเชื่อว่า ตำรวจจะบอกแม่เองว่าทำไมต้องหยุดพักทำคดีนี้
ส่วนกรณีที่ตำรวจตั้งเป้าว่าจะจับคนร้ายให้ได้ เชื่อว่าเป็นการให้กำลังใจกับพ่อแม่ครอบครัว และ แม่ก็อยากให้กำลังใจตำรวจ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องตำรวจให้กำลังใจครอบครัวตลอดดูแลอย่างดี แม่จะไม่กดดันการทำงานของตำรวจ แม่ยังขอความเป็นธรรมกับสังคม ให้ความยุติธรรมกับแม่ด้วยถ้าพ่อแม่ชมพู่เป็นคนฆ่าลูกคงไม่ดึงเรื่องไว้จนถึงวันนี้ (15ก.ค.2563)
ด้านนายชาญ วงศ์ศรีชา (อดีตผู้ใหญ่บ้านกกกอก) ตาของน้องชมพู่ เปิดเผยหลังทราบผลการสรุปจากกรรมาธิการการกฎหมาย ฯ ว่า ตายังนั่งยันนอนยัน ว่าเป็นไปไม่ได้ตามข้อสันนิษฐานว่าเด็กจะขึ้นไปเอง หากขึ้นไปเองในช่วงที่มีการค้นหา ทั้งหมู่บ้านระดมคนทั้งตำบลกว่า200คน ปูพรม ตั้งแต่11-14พ.ค.2563 เหตุใดถึงไม่พบน้องชมพู่ แต่เวลานี้ ก็ยังรอคำตอบ และ อยากรู้ว่าใครทำให้น้องเสียชีวิต และ ใครพาขึ้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง