ข่าว

เปิดคำให้การแรก รองสารวัตร ยันไม่ได้เป็นคนทำ "น้องนุ่มนิ่ม" เล่าเป็นฉากๆ คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดคำให้การแรก รองสารวัตร ยันไม่ได้เป็นคนทำ ตอนนี้เครียดมาก ไม่มีที่ยืนในสังคม

จากกรณี นส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ วัย 30 ปี ภรรยาสาวของนายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” สน.วังทองหลาง เสียชีวิตภายในทาวเฮ้าส์สูง 2 ชั้น ย่านบางกะปิ ในสภาพศพใส่ชุดนอน มีรอยกระสุนปืนขนาด .45 ออโต้ ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัดด้านญาติไม่เชื่อ พบพิรุธ ผู้ตายถนัดมือขวา  แต่มีรอยกระสุนที่ศีรษะด้านซ้าย 

อ่านข่าว : แม่"น้องนุ่มนิ่ม"เผยคำพูดปริศนาที่ทำให้รู้ว่า ลูกตัวเองไม่มีทางคิดสั้นแน่นอน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ สน.ลาดพร้าว ทางญาติของ นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือ “น้องนุ่มนิ่ม” ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน และขอใบรับรองเพื่อนำไปรับศพ “น้องนุ่มนิ่ม” ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่บ้านเกิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นางทองใส่ ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี ผู้เป็นมารดา  กล่าวว่า ไม่เชื่อลูกสาวจะฆ่าคัวตาย เพราะทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย ลูกสาวมีกพูดเสมอว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำสิ้นคิด ตนเองมีสมองไม่มีทางทำแบบนั้น และการฆ่าจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด และยอมรับว่า ยังติดใสเรื่องการใช้อาวุธในปืนในที่เกิดเหตุ เนื่องจากลูกสาวถนัดมือขวา แต่สภาพศพที่พบถือปืนในมือซ้าย ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยมาเล่าว่ามีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งกับสามี เรื่องภายในครอบครัว รุนแรงถึงขนาดใช้ปืนจ่อที่ศีรษะลูกตน พร้อมยืนยันลูกไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะก่อนเกิดเหตุยังไลฟ์ขายของปกติดี ดูท่าทางร่าเริง พอหลังเกิดเหตุสามีลูกสาวยังไม่เคยติดต่อมาอีกเลย

เปิดคำให้การแรก รองสารวัตร ยันไม่ได้เป็นคนทำ \"น้องนุ่มนิ่ม\" เล่าเป็นฉากๆ คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น

ด้าน รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง กล่าวถึง กรณีน.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี ภรรยาใช้อาวุธปืน .45 ยิงตัวเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ตนแทบไม่มีที่ยืน เครียดมาก เพราะทางครอบครัวของแฟนที่เสียชีวิตคิดว่าตนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ และไม่มีเหตุผลที่จะทำเพราะเขาคือคนที่ตนรักและมีลูกด้วยกัน 
ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าครอบครัวของแฟนไม่ชอบตนจริงและไม่เคยเจอกัน มีเพียงพูดคุยกับแม่แฟนผ่านโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ตนก็พยายามพิสูจน์ให้แม่ของแฟนเห็นว่าตนสามารถดูแลลูกของเขาได้  จึงได้ซื้อบ้านเมื่อ 3 เดือนก่อนเพื่อทำให้เห็นว่าลูกของเขาจะไม่ลำบาก 

รองสารวัตรสืบสวน กล่าวถึงเรื่องใช้ผ้าขาวคลุมศพภรรยา และเกิดข้อสงสัยว่า  ขณะที่ทางแพทย์ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และทุกคนที่มาในที่เกิดเหตุก็เห็นสามารถไปถามทุกคนได้ ส่วนอาวุธปืนที่ก่อเหตุนั้น รองสารวัตรสืบสวนบอกว่า ตนได้ใส่ไว้ในกระเป๋าวางไว้บนหัวเตียงในห้องนอน และไม่รู้ว่าแฟนไปหยิบออกมาเมื่อไหร่ 
และอาวุธปืนไม่ได้มีการขึ้นนกจึงเชื่อว่าไม่สามารถลั่นได้อย่างแน่นอน เมื่อถามว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตสงสัยว่าทำไมถึงยิงมือซ้ายทั้ง ๆ ที่ผู้ตายถนัดขวา รองสารวัตรสืบสวนกล่าวว่า ผู้ตายถนัดทั้งสองข้าง 

ขณะประเด็นทำร้ายร่างกายนั้น รองสารวัตรสืบสวน ยอมรับว่าทะเลาะกันและเคยใช้กำลังด้วยการตบไปที่ใบหน้า เนื่องจากภรรยาพยายามจะเอาลูกกลับไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งตนไม่อยากให้เอากลับไป จนเกิดการยื้อแย่งกัน แต่ยืนยันว่าตนไม่เคยนำอาวุธปืนไปจ่อศีรษะภรรยาตามที่ถูกกล่าวหา

อย่างไรก็ตามรองสารวัตรสืบสวนได้เล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุตนได้กลับบ้านในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. เมื่อมาถึงก็ได้มีการโทรศัพท์เรียกให้ภรรยาลงมาเปิดประตูบ้านให้ตามปกติเพราะตนไม่มีกุญแจและหลังจากนั้นภรรยาก็ลงมาเปิดประตูให้ตามปกติ เมื่อเข้าไปในบ้านตนได้นั่งดูหนังที่ชั้นล่างส่วนภรรยาได้ขึ้นไปนอนที่ชั้นบน เมื่อดูหนังจบตนได้ขึ้นไปนอนในห้อง ภรรยาได้บอกมาว่าอยากอยู่คนเดียวก่อนที่จะเดินออกไปตนก็พยายามบอกว่าให้มานอนด้วยกัน แต่ภรรยาไม่ฟังและออกไปนอนอีกห้องทันที ต่อมาตนได้เดินไปเคาะประตูเพื่อให้กลับมานอนด้วยกัน แต่ภารยาไม่เปิดจึงได้พยายามใช้เท้ากระแทกประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปได้ภารยาก็ยังยืนยันว่าจะอยู่คนเดียว ตนจึงพยายามพูดคุยจนภรรยาใจอ่อนและได้จูงมาภรรยากลับมานอนด้วยกันที่ห้องก่อนที่จะหลับไป ก่อนจะได้ยินเสียงปืนตสจึงรีบลงตามหาภรรยาและพบว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ตนจึงโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ