ผล DNA ข้างศพ "น้องชมพู่" ออกแล้ว "ลุงพล" หวั่นเจอหมายจับ วอนตำรวจอย่าจับแพะ

คืบหน้า คดี น้องชมพู่ เด็กหญิง วัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา  บนภูเหล็กไฟ ในพื้นที่ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร   ตั้งแต่วันที่  11 พ.ค. ที่ผ่านมา 

ล่าสุดมีรายงานว่า  ผลการตรวจ DNA ผู้ต้องสงสัยออกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผย  ซึ่งหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ส่งไปตรวจ DNA เป็นเส้นผม หรือ เส้นขน ซึ่งเก็บได้จากบริเวณใกล้กับร่างของน้องชมพู่  ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าผลตรวจ DNA จะสามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้หรือไม่  

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย คือ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ซึ่งเป็นผู้ที่ไปพบศพของน้องชมพู่ ระบุว่า ถ้าหากมีการออกหมายจับจริง และตนเป็นคนถูกออกหมายจับ ก็ต้องดูว่าหลักฐานที่ใช้ประกอบในการขอหมายจับนั้นมาจากอะไร หากเป็นเส้นผม ต้องบอกว่าระหว่างที่ตนพบศพน้องชมพู่ ตนถอดหมวกด้วย และมีเหงื่อเยอะมากเพราะอากาศร้อน เหงื่ออาจกระเด็นโดนศพได้ และไม่ใช่ของตนคนเดียว มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ อีก

นอกจากนี้ ช่วงที่ออกตามหาน้องชมพู่ และลุงพล ได้เตรียมเสื้อผ้าของน้องชมพู่ไปด้วย จึงทำให้คนสงสัยว่าทำไมจึงเตรียมไปด้วย เหมือนรู้ว่าน้องชมพู่เสียชีวิตแล้ว ลุงพล บอกว่า ตนไม่ได้เป็นคนเตรียมเสื้อผ้า แต่เป็นพ่อแม่ของน้องเตรียมให้ เพราะคุณหมอที่สนิทแนะนำว่าให้นำเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม ไปให้น้องด้วย และยังบอกวิธีการดูแล เพราะตอนนั้นทุกคนเชื่อว่าน้องชมพู่ยังมีชีวิตอยู่

และตนก็ไม่แน่ใจว่าหยิบเสื้อผ้าให้ตำรวจทีละชุด หรือยื่นทั้งกระเป๋าให้ อาจจะทำให้มีลายนิ้วมือหรือ DNA ของตนปะปนไปได้ รวมทั้งกระเป๋าเป้ที่ใช้ขึ้นเขาของตน ตำรวจก็เอาไปตรวจสอบ และพบรอยดินคล้ายกับที่รอยเท้าน้องชมพู่ ก็อาจจะสงสัยอีก เพราะดินที่เห็นเป็นดินที่ติดมากับขวดน้ำที่นำไปดื่มเวลาขึ้นภูเหล็กไฟ

โดยหากตนถูกออกหมายจับเพราะหลักฐานพวกนี้ ถือว่าไม่ยุติธรรมกับตน ตำรวจต้องชี้แจงและให้ชัดเจนมากกว่านี้ ขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็ว อย่าจับแพะ