
วิญญาณพ่อมาเข้าฝันลูก บอกว่าหนาวขอผ้าห่ม ก่อนพบเป็นศพในคลอง
วิญญาณพ่อมาเข้าฝันลูก บอกว่าหนาวขอผ้าห่ม ก่อนพบเป็นศพในคลอง
วันที่ 5 มีนาคมเวลา 18.50 น. ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง จากชาวบ้าน พบศพชายสูงอายุจมน้ำเสียชีวิต ในคลองน้ำท้ายหมู่บ้านจัดสรร ที่บ้านถ่อน ม.4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ตำรวจเขตงานนาคา, แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือ นายกิมฮง แซ่โหล่ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 39/3 ม.4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี นอนจมน้ำในลักษณะคว่ำหน้า ตรวจสอบรอบบริเวณและตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและต่อสู้แต่อย่างใด เสียชีวิตมาประมาณ 4-5 วัน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตัวเองประมาณ 100 เมตร
จากการสอบสวนนายยุทธศักดิ์ แซ่โหล่ อายุ 33 ปี ลูกชายผู้ตาย ให้การด้วยน้ำตาคลอว่า ตนเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ตาย และได้ย้ายไปอยู่กินกับภรรยาชาว จ.พิจิตร ได้ประมาณ 1 ปี ส่วนแม่ไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านเลื่อม ซึ่งเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง แต่ทุกเช้าแม่จะมาส่งข้าวส่งน้ำให้พ่อได้กินทุกวัน โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แม่ได้โทรศัพท์บอกว่าพ่อหายออกจากบ้านไป 3 วัน โดยไม่รู้ว่าหายไปไหน ข้าวที่เอามาให้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม จึงบอกให้ตนเดินทางกลับมาบ้าน จ.อุดรฯ เพื่อช่วยออกตามหาพ่ออีกแรง
จนกระทั่งวันนี้เวลา 16.00 น. ตนเดินทางกลับมาถึงบ้านที่จ.อุดรฯ และได้เดินดูรอบบริเวณบ้าน ก่อนที่จะไปดูที่ป่าละเมาะ และมีคลองน้ำที่พ่อเคยเดินมาตักน้ำจากคลองไปใช้อุปโภคเป็นประจำ ตนจึงเดินสำรวจดูคลองน้ำไปรอบๆ หลายจุด แล้วมาเจอ ในตอนแรกคิดว่าเป็นหมอนลอยอยู่ในคลองน้ำ แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้กลับได้กลิ่นเหม็นเน่า จึงมองดูชัดๆพบว่าเป็นศพคน และมั่นใจว่าศพที่พบเป็นศพของพ่อตนเอง เนื่องจากจำเสื้อตัวเก่งของพ่อที่ชอบสวมใส่เป็นประจำได้ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
โดยพ่อร่างกายไม่แข็งแรง เพราะอายุมาก เดินไปไหนมาไม่สะดวก โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก่อนแม่จะโทรศัพท์ไปแจ้ง มีลางสังหรณ์บอกเหตุว่า ขณะที่นอนหลับตนฝันเห็นพ่อมาบอกว่าพ่อหนาวขอผ้าห่มหน่อย ตนจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนกระทั่งเช้าแม่โทรศัพท์มาบอกว่าพ่อหายออกจากบ้านไป 5วัน จึงคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพ่อตนเป็นแน่ แล้วมันก็เป็นความจริง
แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาได้ประมาณ 5 วัน ซึ่งทางญาติไม่ติดใจการตายครั้งนี้ จึงให้มูลนิธิ ฯ นำศพไปไว้ที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ เพื่อให้ญาติไปติดต่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค จ.อุดรธานี