ข่าว

ยิงรถ บิ๊กโจ๊ก มีนัย จัดหนักหรือจัดฉาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับตาลอบยิงรถ บิ๊กโจ๊ก คลี่คลายหรือจะกลายเป็นละครฉากหนึ่งที่มีคนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์

 

              เหตุการณ์คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุกระหน่ำยิงใส่รถยนต์ส่วนตัวของ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่จอดไว้ข้างทางบนถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก เมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่รับผิดชอบสถานีตำรวจนครบาลบางรัก

 

 

 

              ตกเป็นข่าวโด่งดัง ทั้งคนในวงการตำรวจและนอกวงการต่างให้ความสนใจ เนื่องจาก พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ เป็นนายตำรวจที่มีชื่อเสียงมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งที่ก้าวกระโดดจากเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยรุ่น 47 อีกทั้งผลงานการปราบปรามในหลายด้าน นอกจากนี้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก ยังเป็นที่รู้กันในวงการว่าเป็นลูกรักของ "บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง

              จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกยิงเป็นรถยี่ห้อ เลกซัส รุ่น อาร์เอกซ์ 270 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กทม. บริเวณประตูฝั่งซ้าย ใกล้ที่พักเท้า ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าพบรูกระสุน 1 รู และที่ประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้ายหลังใกล้ที่พักเท้าพบรอยกระสุน รวม 7 นัด

อ่านข่าว - คำสั่งเด้งแห่งปี..สอย บิ๊กโจ๊ก นายพลดาวรุ่งร่วงสู่สามัญ

 

 

 

              ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากร่องรอยกระสุนพบว่า รูกระสุน จำนวน 7 นัดนั้นมีวิธีการยิงที่เกาะเป็นกลุ่มไม่กระจายออกจากกัน มีเพียง 1 นัด เท่านั้นที่ยิงไปที่ที่นั่งผู้โดยสารคนหน้า ในทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพที่มีความสามารถในการยิงปืนระดับสูง ประกอบกับการใช้เวลาเพียง 1 นาที เท่านั้นในการลั่นไก จึงเชื่อได้ว่าไม่ได้เป็นมือปืนระดับล่าง อีกทั้งรถคันที่เกิดเหตุยังไม่ใช่รถของบิ๊กโจ๊กที่ใช้ประจำ แต่เป็นรถของภรรยา ซึ่งกลุ่มมือปืนต้องมีการวางแผน มีคนให้ข้อมูลการใช้รถของบิ๊กโจ๊กอย่างแน่นอนว่าจะใช้รถคันไหน

              แต่จุดที่น่าสงสัยเหลือเกิน ทำไม มือปืนระดับนี้ถึงยิงในระดับที่ต่ำกว่าปกติของการยิงเพื่อสังหาร อีกทั้งในช่วงเวลายิงก็ไม่มี บิ๊กโจ๊ก หรือบุคคลอื่นอยู่ในรถ

 

 

 

              หรือนี้เป็นเพียงการยิงเพื่อข่มขู่ หรือมีการจัดฉากอะไรบางอย่างก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้จากร่องรอยกระสุนขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์ของ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ที่ออกมาเปิดเผยหลังเกิดเหตุกับสื่อมวลชนว่า การก่อเหตุครั้งนี้่เป็นการประสงค์ต่อชีวิต

              ส่วนเส้นทางการก่อเหตุคนร้ายขามาก่อเหตุใช้เส้นทางถนนสุรวงศ์ แล้วเลี้ยวเข้าซอยสาริกา ขับขี่วนไปท้ายซอย ซึ่งเป็นทางตัน แล้ววกกลับมา เมื่อมาถึงรถได้ใช้อาวุธปืนยิงใกล้ที่พักเท้า และเมื่อคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขับขี่รถย้อนกลับมาทางเดิม แล้วขับขี่มุ่งหน้าไปยังแยกอังรีดูนังต์ ได้เลี้ยวซ้ายวิ่งถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาแยกสามย่าน ซึ่งในช่วงถนนที่คนร้ายใช้หลบหนีถือว่าเป็นถนนสายหลัก จึงไม่น่ายากที่จะสืบสวนจากกล้องวงจรปิด

อ่านข่าว - บิ๊กป้อม ปัดไม่รู้เรื่องส่วนตัวยิงรถ บิ๊กโจ๊ก รอฟังรายงาน

 

 

 

              ในประเด็นเกี่ยวกับคนร้ายขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ออกมาว่าเป็น มือปืนอาชีพ หรือ มือปืนคนมีสี หรือ มือปืนสมัครเล่น แต่ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่น่าคิดคือ การก่อเหตุกลางกรุงเทพมหานครที่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด ทุกตรอก ทุกถนนเช่นนี้ ยังกล้าที่จะลงมือ แม้ว่าจะเป็นการก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืนก็ตาม ซึ่งหากเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างจริง ก็ถือว่าเป็มซุ้มที่มีอิทธิพลพอดูที่กล้ารับงานยิงรถนายตำรวจยศพลตำรวจโท ใจกลางกรุงเทพฯ หรือหากเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์จริง ก็น่าจะเป็นการเจ็บแค้นอย่างมาก และต้องเป็นกลุ่มที่สามารถติดต่อผู้รับงานได้เป็นอย่างดี 

              ข้อสงสัยทั้งหมดจะถูกคลี่คลายได้ก็ต่อเมื่อตำรวจติดตามจับกุมมือปืนทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าตำรวจจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด หากคดีนี้ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ก็จะกลายเป็นละครฉากหนึ่งที่จะมีคนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ