แม่ไม่เชื่อลูกก่อเหตุวิวาทจนถูกซ้อมดับคาเรือนจำ

กระทรวงยุติธรรม  5 กันยายน 2562 ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นางนอม กัณหาบุตร มารดาของนายฉัตรชัย กัณหาบุตร อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ที่เสียชีวิตขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอำเภอธัญบุรี พร้อมทนายความเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงยุติธรรม นาย ศาสตรา ศรีปาน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความเป็นธรรมและขอรับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544

นางนอม กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อต้องการขอรับเงินเยียวยาเนื่องจากตัวเองเป็นคนจน และมาขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย เพราะเชื่อว่าบุตรชายไม่ได้เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาท โดยช่วงแรกของภาพที่ได้ดูจากกล้องวงจรปิดพบว่าภาพบางช่วงหายไปเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที เป็นภาพจากเรือนนอนและมาปรากฏภาพอีกครั้งเมื่อลูกชายตนนอนบนเตียงในเรือนพยาบาลแล้ว และอีกช่วง ภาพหายไปประมาณ 10 นาที เป็นภาพที่บุตรชายเดินออกจากเรือนนอนไปด้านนอก ซึ่งไม่ทราบว่าไปไหนและเกิดอะไรขึ้น

จากนั้นปรากฏภาพอีกครั้งตอนลูกชายเดินกลับเข้ามาในเรือนนอน ซึ่งสงสัยว่าช่วงที่ไม่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จึงต้องการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดอีกครั้ง แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวชี้แจงว่าได้รับภาพกล้องวงจรปิดมาเพียงเท่านี้ แม้รับปากว่าจะตามเรื่องให้ แต่ไม่ได้บอกระยะเวลาที่ชัดเจน จึงอยากให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ

นายสามารถ กล่าวว่า จะให้ทางกระทรวงยุติธรรมฯได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งปกติต้องใช้เวลาในการพิจารณาของคณะกรรมการภายใน 21 วัน โดยหลักการสำคัญ คือ ผู้ตายต้องไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และต้องรอสำนวนจากพนักงานสอบสวนมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ถ้าพบว่าเข้าหลักเกณฑ์การได้รับเงินเยียวยาก็จะได้รับเงินมาประมาณ 100,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจตามนโยบายเร่งด่วนของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เน้นย้ำเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ นโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือ สร้างความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม โดยกระทรวงฯจะช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุการเสียชีวิตและในส่วนของกล้องวงจรปิดภาพช่วงที่หายไปต้องมีคำตอบว่าหายเองหรือตั้งใจให้หายไป 

“จากนี้จะนำเรื่องนี้รายงาน รมว.ยุติธรรมต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกวันนี้ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยทุกวันนี้เรือนจำทุกเรือนจำมีปัญหาเรื่องจำนวนนักโทษที่มีมากกว่าอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ และ ด้วยความแออัดของเรือนจำ ที่ท่านรมต ได้ชี้แจงต่อสภาว่ามีพื้นที่นอน เพียง 1 ตารางเมตร เท่านั้น ตรงนี้ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ ตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปฏิบัติงานทุกท่านอยู่แล้ว เรื่องนี้ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ ท่านรัฐมนตรีท่านเน้นย้ำเรื่องความยุติธรรม เสมอภาค และเท่าเทียมกันทุกชนชั้นอยู่แล้ว ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นกระบวนการตรวจสอบได้”นายสามารถ กล่าวย้ำ

ด้านนายเกิดโชค กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องแล้วจะตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 หรือไม่ ซึ่งปกติต้องใช้เวลาในการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการภายใน 21 วัน

โดยหลักการสำคัญของผู้เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการเยียวยา คือ ผู้ตายต้องไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และต้องรอสำนวนจากพนักงานสอบสวนมาประกอบการพิจารณา หากคณะกรรมการพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์การได้รับเงินเยียวยาก็จะได้รับเงินประมาณ 100,000 บาท

ทั้งนี้ นางนอม ได้กล่าวขอบคุณนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผช.รมต.ยุติธรรม ที่ลงมารับเรื่องช่วยเหลือสั่งการ และ กล่าวขอบพระคุณท่าน รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัว ตนเองเป็นคนจน ดีใจที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับคนจนอย่างพวกตน