ข่าว

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโจ๊ก" แถลงยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดังลักลอบขายในย่านสำเพ็ง

 

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 เมษายน 2562 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ในฐานะ รองผู้อำนายศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แถลงผลการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ที่ลักลอบขายในย่านสำเพ็ง

 

 

 

               พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปราบปรามครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เมษายน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในตลาดสำเพ็ง จำนวน 2 ร้าน จับผู้กระทำผิดได้ 2 คน คือ นางสาวพัชรินทร์ แก้วยอดคง ผู้ดูแลจัดการร้านเจ้ฉัน และนางสาวพรสุดา นครังสุ ผู้ดูแลร้านโชคดี ในข้อหาจำหน่ายหรือเสนอจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม พร้อมตรวจยึดสินค้าเครื่องสำอางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กว่า 7 พันรายการ เป็นสินค้าแบรนด์ดังต่างประเทศ มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท

               พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้พื้นที่อื่นๆ ทั้งภูเก็ต เกาะสมุย เชียงใหม่ นครราชสีมา ซึ่งเคยเป็นแหล่งค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่จะต้องหมดไป รวมถึงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะทำงานร่วมกับ กสทช. จะเข้มงวดดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด ซึ่งทางบริษัทผลิตภัณฑ์พึงพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลปราบปรามอย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากไปยังผู้ที่ดำเนินการผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในพื้นกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หรือทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก ไอจี ให้หยุด

               ทั้งนี้ เตรียมขยายผลถึงนายทุน และจะใช้มาตรการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไปแล้ว จำนวนกว่า 4 แสนรายการ รวมมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท จับผู้ต้องหากว่า 58 คน

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

               ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. พร้อมฝ่ายสืบสวน แถลงผลปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญากับผู้ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมทางออนไลน์ อาทิ กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า กว่า 3,560 ชิ้น มูลค่าความเสียหายประมาณ 13 ล้านบาท

               พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอศ. รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้ลักลอบนำสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ผ่านมาทางตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางร่วม 2,000 ชิ้น ขณะเดียวกัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กขายสินค้าแบรนด์เนมปลอมเครื่องหมายการค้าได้ 2 ราย โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และบ้านพักย่าน อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางรวมกว่า 2,300 ชิ้น

               ต่อมา ตำรวจ ปอศ. เข้าจับกุม นายคมกฤษ ทิพย์สระน้อย และ น.ส.จิตรา หน่างเกษม ทั้งคู่ อายุ 21 ปี 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล หลังทั้งคู่ลักลอบเปิดร้านจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนเข้าตรวจยึดของกลางได้กว่า 200 ชิ้น สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นเจ้าของสินค้า จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

ทลาย "สำเพ็ง" ยึดเครื่องสำอางปลอมแบรนด์ดัง

 

 

 

               พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ ระบุว่า ปัจจุบันการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หน้าร้านน้อยลง แต่ใช้วิธีเปิดเพจเฟซบุ๊กไลฟ์สดขาย และขายผ่านอินสตาแกรมกันจำนวนมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่หน้าร้าน โดยยอมรับว่ายากต่อการจับกุม แต่ตำรวจ ปอศ. ยืนยันว่า จะเดินหน้ากวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่องแน่นอน ซึ่งตรวจสอบพบสินค้าดังกล่าวถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีแหล่งผลิตมาจากประเทศที่ 3 เบื้องต้น แจ้งข้อหาปลอมเครื่องหมายการค้า และนำเข้าสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม แก่ผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ