ตำรวจ 191 รวบแก๊งหลอกร่วมลงทุนวงแชร์ทางเฟซบุ๊ก พบเหยื่อถูกตุ๋นกว่า 100 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่ ห้องประชุมกองกำกับการสายตรวจ (191) บก.สปพ. ถ.วิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ต.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 และ ตำรวจ บก.สปพ. ร่วมกันจับกุม น.ส.สมฤทัย ฉิมพาลี น.ส.โสธิดา ฉิมพาลี และ นายสิทธิโชค พรมประสิทธ์ ผู้ต้องหาหลอกลวงร่วมลงทุนวงแชร์ทางเฟซบุ๊ก โดยจับกุมได้ที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 61 ทั้งนี้ มีผู้เสียหายประมาณ 100 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.สมฤทัย หรือ มิ้ม ฉิมพาลี และ น.ส.โสธิดา หรือ เมย ฉิมพาลี ได้เปิดให้มีการเล่นแชร์โดยตนเองเป็นเท้าแชร์ โดยทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน และร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโดยใช้วิธีการโฆษณาเชิญชวนให้คนเข้ามาเล่นแชร์ผ่านหน้า page ใน facebook และแอปพลิเคชัน ไลน์ หรือ ให้ผู้ที่เล่นอยู่แล้วชักชวนผู้อื่นเข้ามาเล่นเพิ่มเป็นลูกโซ่ต่อๆ กัน โดยในวงแชร์ของ น.ส.สมฤทัย มีเลขาฯ ที่ดูแลลูกค้าที่เข้ามาเล่น 2 คน คือ น.ส.ศิรินทิพย์ หรือ ทิพย์ นามวิเศษ (จับกุมได้ก่อนหน้านี้) และ น.ส.สุชาดา หรือ กิ่ง อ่อนขำ ส่วนวงแชร์ของ น.ส.โสธิดา หรือ เมย ฉิมพาลี เป็นผู้ดูแลวงแชร์ของตัวเอง ไม่ได้มีเลขาฯ มาช่วย และใช้วิธีการเดียวกันกับ น.ส.สมฤทัย ในการหลอกลวงผู้เสียหาย
วิธีการฉ้อโกงคือ เมื่อ น.ส.สมฤทัย และ น.ส.โสธิดา ตั้งวงแชร์ โดยมี น.ส.ศิรินทิพย์ และ น.ส.สุชาดา เป็นเลขาฯ และชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนเล่นแชร์ ในเวลาต่อมาก็ทำการปิดวงแชร์ หรือเรียกว่าแขวนยอด เป็นการหยุดการจ่ายเงินค่าแชร์ทั้งหมด รวมถึงการหยุดคืนเงินต้นของผู้เสียหายทุกคน เมื่อได้รับการทวงถามจากผู้เสียหาย ก็หลบหนีไปอยู่ที่อื่น เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และไม่ยอมชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายอีกเลย ต่อมาเมื่อผู้เสียหายไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหา ก็ได้นำคดีฟ้องสู่ศาลจังหวัดปทุมธานี และศาลได้ออกหมายจับในคดีนี้ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” โดยมี น.ส.สมฤทัย เป็นจำเลยที่ 1 , น.ส.โสธิดา เป็นจำเลยที่ 2 , น.ส.ศิรินทิพย์ เป็นจำเลยที่ 3 และ น.ส.สุชาดา เป็นจำเลยที่ 4 และนายสิทธิโชค ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ และได้ออกหมายจับในภายหลัง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ทั้งสิ้น 4 รายแล้ว ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ น.ส.สุชาดา อ่อนขำ ที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนจับกุมต่อไป ส่วนผู้ต้องหา 3 รายที่จับกุมมาได้นำส่งศาลจังหวัดปทุมธานี และศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง