ข่าว

จดหมายชี้แจง "พี่ชายบูม" ไม่เป็นผล !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองผู้การฯกองปราบ ยันจดหมายชี้แจงของ "พี่ชายบูม" ไม่เป็นผล ระบุต้องกลับมามอบตัวตามขั้นตอนกฎหมาย พบโอนเงินเข้าบัญชีพ่อแม่หลายล้านบาท เตรียมเชิญสอบปากคำ

 

             จากกรณีนายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ ได้เข้าแจ้งความว่าถูก นายปริญญา จารวิจิต และพวกหลอกลงทุนซื้อหุ้นด้วยเงินสกุลบิตคอยน์ จำนวน 797 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ 3 พี่น้องจารวิจิต ประกอบด้วย นายปริญญา จารวิจิต , น.ส.สุพิชย์ฌา จารวิจิต และนายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม จารวิจิต ดารานักแสดงหนุ่มในข้อหาฟอกเงิน หลังตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า นายปริญญา ได้โอนเงินที่หลอกลวงผู้เสียหายเข้าบัญชี น.ส.สุพิชฌาย์ และนายจิรัชพิสิษฐ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ได้จับกุมนายจิรัชพิสิษฐ์ ได้ที่บริเวณชั้น 2 ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ขณะกำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่ ก่อนที่ต่อมา น.ส.สุพิชย์ฌา เดินทางเข้ามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

             ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้(16 ส.ค.61) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. ได้ออกมาเปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ดารานักแสดงหนุ่ม หนึ่งในผู้ต้องคดีฟอกเงิน ได้ยื่นจดหมายชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมายังตน เพื่อขอให้ทนายส่วนตัวเข้ามาจัดการเรื่องเอกสารที่ถูกออกหมายจับ และยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี แต่ที่เดินทางไปต่างประเทศเพราะเป็นไปตามกำหนดการเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้านี้นั้น ในส่วนนี้ตนขอยืนยันว่า ยังไม่ได้รับจดหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด มีเพียงแค่ข้อความในเอกสารที่นายปริญญา ส่งผ่านมาทางไลน์ส่วนตัว ซึ่งตนไม่ทราบว่านายปริญญา ได้ไอดีไลน์ของตนมาได้อย่างไร นอกจากนี้การส่งจดหมาย หรือหนังสือชี้แจงในความเป็นจริงแล้ว ไม่สามารถทำได้ ในเมื่อทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ ก็ต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายด้วยตนเอง

 

 

             พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สำหรับการตรวจสอบผู้กระทำผิดเพิ่มเติมในคดีฟอกเงินจากกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัว “จารวิจิต” นั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่านายปริญญา ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของพ่อแม่จริง ก่อนที่ภายหลังทั้งสองจะเดินทางไปทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารดังกล่าวครั้งละหลายล้านบาท โดยเป็นการไปทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคารด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการเชิญตัวทั้งสองมาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ก่อนจะนำคำให้การไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานที่มีอยู่ จึงจะบอกได้ว่าจะมีการออกหมายจับทั้งสองคนในข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีของนายธนสิทธิ์ จารวิจิต นั้น ก็ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐาน และเส้นทางการเงินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ