ผบ.ตร.สั่งฟันรับส่วย'นาตารี'
ฝากขัง 70 ผู้ต้องหาค้าประเวณี 'นาตารี' ผบ.ตร.สั่งฟันรับส่วย
10 มิ.ย. 59 เมื่อเวลา 10.30 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลาย 'นาตารี อาบอบนวด' ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ห้วยขวาง จับกุมหญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี ลักลอบค้าประเวณีจำนวนหลายคน และยังพบบัญชีจ่ายส่วยหลายหน่วยงานโดยเฉพาะตำรวจ ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เร่งสืบสวนสอบสวน ใครมีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ได้มอบให้ พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผู้บังคับการกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย
“เชื่อว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถรายงานความคืบหน้าและมีความชัดเจนมากขึ้น ต้องขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ไม่ต้องกังวล เรามีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ในส่วนของคดีอาญา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ได้ดำเนินการอยู่ ส่วนคดีทางวินัย ทางปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการคู่ขนานกันไป ส่วนบัญชีรายชื่อตำรวจและหน่วยงานที่รับส่วยนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ากี่นาย อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบ ได้เข้มงวดกวดขันทุกสถานบริการ มีการลงพื้นที่จับกุมอย่างต่อเนื่อง”
ด้าน พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวเสริมว่า กองวินัยมีหน้าที่ประมวลเรื่อง รวบรวมข้อมูล และส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้จเรกองตรวจราชการ 10 เป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันจะเร่งให้เร็วที่สุด เบื้องต้นตนยังไม่เห็นรายชื่อและยังไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่นาย การตรวจสอบครั้งนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบ โดยส่วนตัวไม่กังวลว่าตำรวจจะมีการช่วยเหลือกัน ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดอยู่แล้ว
คุมตัว 77 ผู้ต้องหา 'นาตารี' ฝากขัง
เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ทำการควบคุมผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีและหญิงต่างด้าว ที่ถูกจับกุมในสถานบริการ นาตารี อาบ อบ นวด ย่านรัชดาภิเษก โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำไปฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก และอีกส่วนนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ
พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 121 คน มีการแยกดำเนินคดีในส่วนแรกเป็นคนไทยทั้งหมด 23 คน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ สอบปากคำและเปรียบเทียบปรับไปแล้ว ส่วนที่ 2 คือเป็นเหยื่อ 9 คน ซึ่งได้มีการส่งตัวในส่วนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยในส่วนที่ 3 คือ พวกที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอายุเท่าไหร่ มีจำนวน 12 คน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบอายุว่าอายุเท่าไหร่กันแน่ เพื่อพิจารณาดำเนินการว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ต้องหาหรือดำเนินการในฐานะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ รวมที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว 44 คน
พ.ต.อ.ชยุต กล่าวอีกว่า สำหรับส่วนที่เหลือในวันนี้ (10 มิ.ย.) มีผู้ต้องหาที่เหลือจำนวน 77 คน ได้มีการแยกดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำไปฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก จำนวน 57 คน ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน และในส่วนที่ 2 อีก 20 คน ได้มีการแยกไปส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ เนื่องจากตรวจสอบแล้วมีใบอนุญาตทำงาน ไม่มีความผิดในเรื่องไม่มีใบอนุญาต แต่ผิดในเรื่องเงื่อนไข โดยส่วนนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหามั่วสุมในสถานค้าประเวณี และในเรื่อง พ.ร.บ.ทำงานผิดประเภท ซึ่งในจำนวนวันนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 5 คน จะถูกดำเนินคดีในเรื่อง พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี และการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องการค้าประเวณีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแล คนเชียร์แขก พนักงาน
“ในส่วนของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เราก็จะคัดแยก โดยมีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาร่วมด้วย ตอนนี้ขั้นตอนการสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว และก็นำไปฝากขังหรือว่าส่งฟ้องศาลตามศาลที่อยู่ในอำนาจ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของ เรารู้เพียงว่าใครเป็นผู้ได้รับอนุญาต ซึ่งมี 2 คน มีใบอนุญาต 2 ใบ ในส่วนของตัวเจ้าของอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดหรือไม่อย่างไร แต่ก็พอมีข้อมูลบางส่วนแล้ว”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันนี้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เข้าจับกุมในวันเกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ พ.ต.อ.ชยุต กล่าวว่า มีการเชิญมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากว่าเราต้องการพยานที่ไปทำการล่อซื้อในวันเกิดเหตุ เพื่อให้ชัดเจนว่ามีการกระทำความผิดอย่างไร ซึ่งในการสอบสวนเราก็ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จึงต้องมีการเรียกสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวน องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ นำหลักฐานเทปบันทึกถ้อยคำของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงที่ถูกหลอกมาค้าบริการ มาให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อประกอบสำนวนคดีชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองบุกทลายแหล่งสถานบันเทิง นาตารี อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก
นายรณสิทธิ์ เปิดเผยว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ มาในฐานะพยาน เนื่องจากเป็นผู้รวบรวมข้อมูลการสืบสวนก่อนเข้าทลายสถานบริการ นาตารี อาบอบนวด ของชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยข้อมูลที่ได้มีทั้งช่วงอายุของหญิงที่ถูกหลอกมาค้าประเวณี ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการค้าประเวณี และเบาะแสอื่นๆ ที่ได้รับจากหญิงขายบริการ ทั้งนี้ในทางสืบสวนยังทราบอีกว่า มีสถานบริการอีกหลายแห่งทั่วประเทศที่หลอกหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี และหญิงที่อายุมากกว่า 18 ปี มาขายบริการในลักษณะใกล้เคียงกับสถาน นาตารี อาบอบนวด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลและหลักฐานที่แน่ชัด